ลูกค้าทุเรียน แจ้งความเอาผิด หลังเจ้าของร้านถือมีดขู่-ไล่ ไม่ให้เปลี่ยนสินค้า

กรณีเพจ 'อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3' โพสต์คลิป ลูกค้าเข้ามาร้องเรียน พ่อค้าขายทุเรียน บริเวณแผงริมทางในจังหวัดขอนแก่น มีปากเสียงกับลูกค้าขาประจำ ซึ่งลูกค้ารายนี้ได้นำทุเรียนมาขอเปลี่ยนทุเรียน และเริ่มมีปากเสียงรุนแรงขึ้น จนพ่อค้าหยิบมีดปอกทุเรียน แล้วไล่ให้ออกไปจากร้าน พร้อมระบุว่า



"หลังซื้อทุเรียนไปแต่ได้ทุเรียนอ่อน เปลี่ยนสองสามครั้ง ถูกข่มขู่คุกคามจากพ่อค้า แจ้งความสภ.บ้านเป็ด แต่เรื่องก็เงียบ และจนท.ได้บอกให้หาชื่อข้อมูลคนขายเอง ทั้ง ๆ ที่อยู่ห่างจากสภ.ไม่ถึงกิโล"



ในคลิป ฝั่งลูกค้า 2 คน ได้บอกพ่อค้าว่า "(ลูกค้าเสียงหญิง1)ตาก็คิดดูซิ จะเอาลงเฟซเลย เขาจะไม่มาซื้อกับตาเลยถ้าทำแบบนี้" "(ลูกค้าเสียงหญิง2)หนูมาซื้อกับตา ไม่รู้กี่ลูกแล้ว แล้วก็ซื้อรอบนี้ไปตั้ง 2 ลูก ไม่ใช่แค่เงิน 1 - 2 บาท" "(ลูกค้าเสียงหญิง1)หนูนี่เป็นลูกค้าประจำตา ไม่ใช่ว่าพึ่งเป็น ลูกที่ 3 กินได้ ที่ซื้อไปกินกับเพื่อนวันนั้นนะ แล้วถ้ามันกินได้หนูจะเอามาคืนทำไม เงินตั้ง 600 – 700 บาท แล้วตาหาเงินแค่นี้เหรอ ตาก็ยังหายากเหมือนกัน หนูก็หายากเหมือนกันเงินนะ"



ส่วนพ่อค้า บอกว่า "มันกินหมดแล้วนี่ ลูกนี้นิ" "(ลูกค้าเสียงหญิง1) ก็เดินเข้าไปเทถุงทุเรียนที่นำมาเปลี่ยน บอกว่า "มันจะกินหมดแล้วที่ไหน มันไม่หมด มันแค่ 2 พู แรกเองมันไม่หมด วันแรกมันไม่สุก วันที่สองมันกินได้ จากนั้นก็ชี้ไปที่พูที่ไม่สุก และบอกอีกว่า เมื่อวานนี้ก็มา แต่ตาไม่มาขาย" เมื่อมีปากเสียงเริ่มดุเดือด พ่อค้าเริ่มโมโห จึงไล่ลูกค้าให้ออกจากร้าน พร้อมกับหยิบมีดปอกทุเรียนขึ้นมาขู่



ล่าสุด นางสาวสิริยาพร อายุ 22 ปี ลูกค้าที่ถ่ายคลิป ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดเมื่อ วันที่ 29 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา ตนเองไปซื้อทุเรียนที่ร้านนี้จำนวน 3 ลูกเป็นเงิน 1,080 บาท ตนเองก็จะมาซื้อทุเรียนที่ร้านนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ปกติจะซื้อกับลูกสาวของคุณตาคนนี้ และไม่เคยมีปัญหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว พอได้ซื้อกับคุณตาครั้งแรกก็เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ปกติจะเอานิ้วจิ้มดูตรงที่ทางร้านเจาะรูไว้แต่ครั้งนี้คุณตาไม่ให้จิ้ม ก่อนที่จะใช้ไม้เคาะฟังเสียงแล้วบอกว่าลูกนี้โอเคนะกรอบนอกนุ่มใน



และอีก 2 ลูกคุณตาบอกอันนี้ก็ทานได้แค่เอาไปบ่มไว้ 1-2 วัน ตนเองก็ซื้อมาและกินไป 1 ลูกซึ่งก็โอเคลูกนี้พอกินได้ไม่ได้ติดใจ แต่ที่ซื้อมาอีก 2 ลูกไม่สามารถกินได้จึงบ่มไว้ตามที่ร้านบอก แต่อีกลูกเนื้อเละชิมไปนิดหนึ่งไม่หวานจึงนำไปคืนที่ร้าน ซึ่งที่ร้านก็เปลี่ยนลูกใหม่ให้ และไม่ให้เราเลือกเหมือนเดิมเป็นทางร้านเลือกให้ และบอกว่าลูกนี้โอเคนะเนื้อดีมากทุเรียนผมไม่ได้บ่มยา ตนเองจึงบอกว่าดูสีแล้วมันก็เหมือนเดิมกินไม่ได้เหมือนเดิม ขอเปลี่ยนเป็นเงินคืนได้ไหม ทางร้านก็บอกว่าไม่ได้ ถ้าจะเปลี่ยนทุเรียนต้องเพิ่มเงิน



ตนเองจึงจำใจต้องเอาทุเรียนที่ร้านเลือกให้กลับไปแทนและร้านบอกว่าให้บ่มไว้เช่นเดิม คุณตาบอกอีกว่าเชื่อผมสิว่ามันกินได้ เพราะตนเองไม่ได้บ่มยา ทำให้มันเละบางจุดแข็งบางจุด แต่ถ้าไม่โอเคก็นำมาเปลี่ยนอีกที ผ่านไป3วันแกะทุเรียนดูพบว่าเนื้อเป็นทุเรียนที่ไม่มีคุณภาพเหมือนเดิม ทั้งแข็ง บางที่เละ รสชาติขม ไม่สามารถกินได้เลย จึงนำทุเรียนไปที่ร้านอีกครั้ง พร้อมกับขอให้ทางร้านลองชิมดูว่ามันไม่สามารถกินได้จริงๆ ซึ่งตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ร้านเสียหาย เสียเวลา หรือพูดโกหก แต่ทุเรียน2ลูกนี้ไม่สามารถกินได้ จึงเอามาให้ร้านชิม



แต่คุณตาด่ากลับมาด้วยถ้อยคำหยาบคาย และบอกว่าไม่สามารถเอามาคืนได้และบอกว่าตนเองกินไปแล้ว ซึ่งตนเองกับแม่ยอมที่จะถอยกลับเพราะคงคุยไม่รู้เรื่องแล้ว จึงตัดใจไม่เอาเงินขึ้น ขณะที่กำลังจะกลับนั้น คุณตาบ่นเสียงดังขึ้นมาว่าทุเรียนมันไม่มีพูทำให้แม่เอาถุงทุเรียนลงไปเปิดให้ดูว่าทำไมจะไม่มีพูจนเกิดเหตุการณ์ในคลิปขึ้น ที่คุณตาหยิบมีดออกมาข่มขู่ตนเองและแม่ที่ไปด้วยกัน



หลังเกิดเหตุ ก็ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านเป็ด สิ่งที่ติดใจคือทำไมต้องยกมีด ถือมีดขึ้นมาข่มขู่เหมือนจะทำร้ายกันในที่สาธารณะ จริงอยู่ที่ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่สิ่งที่ทำกับลูกค้ามันสมควรแล้วหรือไม่ ทั้งเสียความรู้สึก เสียเงิน เราไม่ได้ไปขอกินแต่เราไปซื้อกินไม่ได้กินฟรีแต่ทำไมจึงมาทำแบบนี้



ในวันนั้นตนเองไปกับลูกเล็กด้วย พอคุณตาถือมีดขึ้นมาจนลูกตกใจร้องไห้ และเสียขวัญ ตนเองซึ่งเป็นผู้หญิงก็ตกใจเช่นกัน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ถามว่าจะเอาข้อหาอะไรกับเขา ด้วยความที่ไม่รู้กฎหมายว่าจะเอาข้อหาอะไรได้บ้างก็ถามตำรวจไปจะเอาข้อหาไหนได้บ้าง ทางตำรวจก็บอกว่าถ้าข้อหาพยายามฆ่ามันก็ไม่สามารถทำให้ได้เพราะยังไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือต้องตาย มันก็เป็นแค่กฎหมายแพ่ง



ส่วนเรื่องทุเรียนก็แจ้งความไม่ได้เพราะไม่ใช่เรื่องของตำรวจต้องไปที่ สคบ. แต่ทางตำรวจก็ได้ลงบันทึกประจำวันให้อยู่ และบอกว่าเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้างเพราะไม่รู้กฎหมายก็คงต้องปล่อยไปตามกระบวนการหน้าที่ของตำรวจ



จากนั้น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ร้านขายทุเรียนดังกล่าว และได้พบกับคุณตาเจ้าของร้านคู่กรณี แต่ไม่ขอให้สัมภาษณ์ จากการสอบถามเบื้องต้นคุณตาบอกว่า ลูกค้ารายนี้เข้ามาประมาณวันจันทร์ที่ผ่านมาแต่จำวันที่ซื้อไปไม่ได้ว่าซื้อไปวันไหน บอกทุเรียนที่ซื้อไปมันไม่หวานเลยเอามาคืน ปกติแล้วที่ร้าน ถ้าทุเรียนอ่อนหรือไม่สุกที่ร้านจะรับคืนตลอด แต่ทุเรียนที่ลูกค้าเอามานั้นเป็นทุเรียนแก่ ถ้าทุเรียนแก่ที่ร้านไม่รับคืน



ซึ่งทางลูกค้าก็มาโวยวายที่หน้าร้าน ในส่วนที่บอกว่าถือมีดขู่นั้น เป็นจังหวะที่มีลูกค้าอยู่พอดีก็เลยจะเอามีดมาปอกเปลือกทุเรียนให้ลูกค้าเลยถือมีดขึ้นมาแล้วบอกให้ลูกค้าสองคนที่มาโวยวายนั้นไป ก่อนจะทิ้งทุเรียนไว้ลูกหนึ่งที่ร้าน



จากนั้นลูกค้าคู่กรณีก็ได้เข้าไปแจ้งความกับตำรวจ ทางตำรวจก็ได้มาลงพื้นที่แล้วและให้คู่กรณีมาเจรจาแต่ไม่ยอมมาด้วย ตำรวจจึงลองกินทุเรียนพิสูจน์ดูปรากฏว่าทุเรียนที่ร้านนั้นหวานจริง จึงได้แนะนำให้ตนเองนั้นฟ้องกลับแต่ตนเองเลือกที่จะไม่ฟ้องกลับเพราะเสียเวลา