ชาวบ้านสุดทน ถนนพังกว่า 10 ปี กลางคืนมืดสนิท หน่วยงานเกี่ยงกันแก้ไข

สุดทน ถนนพัง ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีประปา ทั้งที่อยู่ใจกลางชุมชนเมือง วอน 2 หน่วยงานเลิกเกี่ยงกัน แล้วหันหน้ามาช่วยชาวบ้าน


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง ที่ซอยบางปลา 42 ถนนพังเป็นหลุมบ่อลึก นานกว่า 10 ปี ส่วนช่วงกลางคืน ถนนมืดสนิท ไม่มีไฟฟ้าส่องถนน รวมถึงไม่มีการเดินท่อน้ำประปา ชาวบ้านเดือดร้อนมานาน เคยแจ้งไป อบต.บางปลา แต่ได้รับคำตอบว่าเป็นพื้นที่ของเทศบาลบางเสาธง ลักษณะเหมือนเกี่ยงกันแก้ไขปัญหา ชาวบ้านจึงรวมตัวกันออกมาร้องผ่านสื่อ ถึงสองหน่วยงาน ให้ลงพื้นที่มาดู แล้วเร่งแก้ไข เดือดร้อนมานานมากแล้ว


หลังรับแจ้ง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังถนนเทพารักษ์ ประมาณ กม.ที่ 20 จุดหมายคือซอยปลางปลา 42 หรือซอยแสงฟ้า เมื่อขับรถเข้าซอยไปช่วง 2 กิโลเมตรแรกเป็นถนนคอนกรีตสภาพดี หลังจากนั้นพบเป็นถนนดิน สภาพพังเสียหายอย่างหนัก มีหลุมบ่อลึกจำนวนมาก ความยาวประมาณ 100-150 เมตร พบกับกลุ่มชาวบ้านรวมตัวกันเพื่อมาชี้จุด และร้องเรียนผ่านสื่อ ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ขอให้ลงพื้นที่มาสำรวจให้ชัดเจน ว่าเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานไหนกันแน่ ระหว่าง อบต.บางปลา กับเทศบาลบางเสาธง เนื่องจากเป็นพื้นที่รอยต่อของสองหน่วยงาน เมื่อชาวบ้านร้องเรียนไป กลับถูกทั้งสองหน่วยงานโยนกันไปมา เกี่ยงกัน จึงยังไม่มีการแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องถนนพัง ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีการเดินท่อน้ำประปา ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหนักมานานนับ 10 ปี


อีกทั้งซอยนี้ แวดล้อมไปด้วยชุมชนเมือง โกดังสินค้า และยังเป็นทางลัดสามารถเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ และ ซอยหมู่บ้านไทยประกัน ต.บางเสาธง จึงทำให้มีรถวิ่งผ่านทางเป็นจำนวนมาก ทั้งรถขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ รวมถึงรถจักรยานยนต์ บ่อยครั้งเมื่อมาถึงจุดที่ถนนพัง รถขนาดเล็กมักจะตกหลุม รถพังเสียหาย ป้ายทะเบียนหลุด เป็นจำนวนมาก บางครั้งรถขนาดใหญ่วิ่งเข้ามาช่วงกลางคืน ซึ่งไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง มักจะติดหล่ม


นายสมคิด อายุ 50 ปี อาชีพวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กล่าวว่า ซอยนี้เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างสองหน่วยงาน อบต.บางปลา กับเทศบาลบางเสาธง ดังนั้นขอให้ช่วยคุยกัน แล้วแก้ไขปัญหา ซ่อมถนนให้กับชาวบ้านด้วย เดือดร้อนมานานกว่า 15 ปีแล้ว ขอเพียงเท่านี้ ได้หรือไม่ พร้อมทั้งเดินไปเก็บเศษชิ้นส่วนป้ายทะเบียนของรถยนต์ต่าง ๆ ที่มาประสบเหตุตกหลุม ได้รับความเสียหาย ป้ายทะเบียนหลุดทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก มาให้ผู้สื่อข่าวดู


ส่วน นายทองปลิ่ว อายุ 56 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า นอกจากเรื่องถนนพังเสียหายแล้ว ยังมีเรื่องของไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้าน และไฟแสงสว่างส่องถนน รวมถึงท่อน้ำประปา ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาเลย ปัจจุบันชาวบ้านในซอยนี้ ต้องไปขอเชื่อมต่อมาจากซอยพื้นที่ข้างเคียง ทำให้ได้รับความลำบาก ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมต้องเกี่ยงกันบริการให้กับประชาชน จึงวอนผ่านสื่อไปถึงทั้งสองหน่วยงาน จะเป็นหน่วยงานไหนก็ได้ ขอให้ช่วยชาวบ้านด้วย เดือดร้อนมานานนับ 10 ปี แล้ว


นางวรรณี อายุ 61 ปี อาชีพพนักงานบริษัท กล่าวว่า ถามกับคนในซอย บอกว่าเคยแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบไปแล้วหลายครั้ง แต่เหมือนไม่ใส่ใจ ไม่เคยมาแก้ไข ตนใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อไปทำงานทั้งเช้า เย็น และต้องผ่านเส้นทางนี้ทุกวัน เมื่อมาถึงจุดที่ถนนพัง จะกลัวทุกครั้ง หากเกิดตกหลุม รถล้ม ตนต้องได้รับบาดเจ็บหนักแน่นอน เพราะอายุมากแล้ว คนขับก็เดือดร้อน คนซ้อนก็เจ็บ จึงขอฝากไปถึงทั้งสองหน่วยงาน ขอให้เลิกเกี่ยงกัน แล้วมาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านด้วย