สังคม

ชายวัย 72 อยู่กับศพภรรยานาน 21 ปี วอนมูลนิธิช่วยเผา หวั่นสิ้นลมไม่มีคนจัดการ

โดย passamon_a

1 พ.ค. 2565

66 views

เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ โพสต์เรื่องราวของคุณลุง อายุ 72 ปี ที่ไปขอความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา บอกว่า อยากให้ทางมูลนิธิช่วยจัดการศพของภรรยา ที่เสียชีวิตไปนานถึง 21 ปี โดยภรรยาของคุณลุง เสียชีวิตที่โรงพยาบาลด้วยโรคประจำตัว คุณลุงจึงนำร่างของภรรยามาเก็บไว้ที่บ้าน ไม่ยอมเผา เพราะรักภรรยามาก ไม่อยากแยกกันไปไหน อยากจะอยู่ด้วยกันจนสิ้นลมหายใจสุดท้าย


แต่เนื่องจากตอนนี้คุณลุงก็อายุมากแล้ว เกรงว่าหากตัวเองเสียชีวิตไป จะไม่มีใครทำศพให้กับภรรยา จึงมาขอความช่วยเหลือ


เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ สอบถามทราบชื่อคุณลุง คือ ร.ต.ชาญ อายุ 72 ปี เมื่อไปตรวจสอบที่บ้านของคุณลุง ย่านรามอินทรา พบว่าเป็นบ้านที่ปลูกในพื้นที่รกร้าง มีต้นไม้และเถาวัลย์ปกคลุม ในบริเวณบ้านพบเพิงพักที่สร้างด้วยปูน ภายในพบโลงบรรจุศพภรรยาของคุณลุง เจ้าหน้าที่จึงพาคุณลุงชาญ ไปสำนักงานเขตบางเขน เพื่อขอคัดใบมรณบัตรของภรรยา ที่เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2544 ก่อนนำร่างไปฌาปนกิจที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์ เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 30 เม.ย. โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายโลงไปยังวัด และระหว่างประกอบพิธี คุณลุงชาญร้องไห้ด้วยความอาลัยรักภรรยาตลอดเวลา


คุณลุงชาญ เล่าว่า ตนเองเคยรับราชการทหาร ส่วนภรรยารับราชการอยู่กระทรวงสาธารณสุข มีลูกชาย 2 คน ทั้งคู่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งภรรยาล้มป่วยด้วยโรคความดันแล้วทำให้เส้นเลือดในสมองแตก รักษาในโรงพยาบาลเพียงแค่ 3 วัน ก็เสียชีวิต ทำให้คนในครอบครัวไม่สามารถรับกับความสูญเสียได้ โดยเฉพาะคุณลุงชาญที่ทำใจไม่ได้ จึงนำร่างภรรยามาเก็บรักษาไว้ที่บ้าน ส่วนลูกชายทั้งสองคนก็แยกย้ายไปมีครอบครัวของตนเอง


คุณลุงชาญ บอกว่า ตลอดระยะเวลา 21 ปี ที่อยู่กับร่างไร้วิญญาณของภรรยา ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึง เพราะคุณป้าเป็นรักแรกพบ เป็นรักแท้ของคุณลุง เวลามีปัญหาทุกข์ใจ ก็จะพูดคุยกับร่างของภรรยา เหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิต แต่ตอนนี้คุณลุงอายุมาก เกรงว่าหากคุณลุงเสียชีวิตไป จะไม่มีใครจัดพิธีศพอย่างถูกต้องให้ภรรยา จึงปรึกษากับลูกชาย และขอช่วยเหลือจากมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ โดยในวันนี้ (1 พ.ค.) คุณลุงจะไปเก็บอัฐิของภรรยา แต่จะไม่ลอยอังคาร เพราะจะเก็บเถ้ากระดูกของภรรยาที่รักไว้ในโกศอัฐิ นำกลับมาที่บ้านแห่งเดิม เพื่ออยู่ด้วยกันจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ


ขณะที่ นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี ประธานมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ จะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือคุณลุงชาญที่ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง เนื่องจากบ้านที่อยู่ตอนนี้ ไม่มีไฟฟ้าใช้ มีเพียงน้ำประปาจากเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน คอยช่วยอนุเคราะห์ พร้อมกับจะนำทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ไปทำความสะอาดรอบ ๆ บ้านให้ เนื่องจากเป็นพื้นที่รกร้าง เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากสัตว์มีพิษ

คุณอาจสนใจ