สังคม

GISTDA เตือน 3 จังหวัดภาคเหนือ เสี่ยงสูงเกิดไฟป่า

โดย weerawit_c

21 มี.ค. 2565

19 views

GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 351 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 158 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 119 จุด พื้นที่เกษตร 37 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 19 จุด พื้นที่เขตสปก. 15 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 3 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ #แม่ฮ่องสอน 196 จุด ครองแชมป์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน



รองลงมาเป็นจังหวัด #แพร่ 29 จุด และ #เชียงใหม่ 17 จุด ตามลำดับ สอดคล้องกับการประเมินพื้นที่เสี่ยงสูงเกิดไฟป่าล่วงหน้า 7 วัน (คือช่วงวันที่ 14 ถึง 20 มีนาคม 2565) จากภาพแสดงให้เห็นว่าจุดความร้อนลดลงต่อเนื่องในหลายพื้นที่ เนื่องจากเกิดฝนตกจากพายุฝนฟ้าคะนอง แต่ในส่วนพื้นที่ภาคเหนือยังพบจุดความร้อนกระจายตัวเหมือนหลายวันที่ผ่านมา



ซึ่งวานนี้พบมากถึง 261 จุด และมีการกระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้วย  ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจุดความร้อนตั้งแต่ 1 มกราคม – 19 มีนาคม 2565 พบว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจุดความร้อนแล้ว 11,609 จุด ตามด้วยภาคเหนือ 10,669 จุด และภาคกลาง 6,086 จุด ตามลำดับ ส่วนเช้าวันนี้เวลา 10.00 น. ทางตอนบนของพื้นที่ภาคเหนือค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนจังหวัดอื่นๆ โดยรวมนั้นอยู่ในระดับดีถึงดีมาก เว้นเพียงจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่พบดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) อยู่ที่ระดับ 102 และ 130 ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย



สำหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ครองแชมป์เป็นสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งวันนี้พบ 4,953 จุด รองลงมาอันดับ 2 เป็นประเทศไทย จำนวน 351 จุด และอันดับที่ 3 สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามจำนวน 325 จุด ตามลำดับ ข้อมูลจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ pm 2.5 ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนภาคเหนือ เนื่องจากมีลมพัดฝุ่นละอองและหมอกควันเข้ามา ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ดูแลสุขภาพและสวมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับ



ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

คุณอาจสนใจ

Related News