สังคม

ไฟไหม้บ้านทรงไทย อายุกว่า 100 ปี วอดกว่า 5 ล้าน เจ้าของบ้านวัย 82 หวิดถูกคลอก

โดย weerawit_c

14 มี.ค. 2565

92 views

ที่จังหวัดสุพรรณบุรีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรีรับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านหลังหนึ่ง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมประสานรถดำเพลิงจากเทศบาลตำบลวังหว้า ตำบลบ้านกร่าง ตำบลดอนปรู ตำบลวังน้ำซับ ตำบลศรีประจันต์ และพื้นที่ใกล้เคียง นับ 10 คัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ไปช่วยดับเพลิง



ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ทรงไทยหลังใหญ่ ยกพื้นสูงพบไฟกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงทั่วทั้งหลังและที่ใต้ถุนบ้านยังมีรถยนต์เอนกประสงค์จอดอยู่ 1 คันเจ้าหน้าที่จึงรีบระดมฉีดน้ำสกัดเพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามยังพื้นที่ใกล้เคียง ใช้เวลากว่า 40 นาทีเพลิงจึงสงบระหว่างที่ดับเพลิงกำลังฉีดน้ำสกัดเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านได้ใช้เชือกผูกรถเอนกประสงค์และใช้รถยนต์ลากโดยมีชาวบ้าน ช่วยลากออกมาได้ทันและปลอดภัยก่อนที่จะถูกไฟไหม้



นางนิสารัตน์ อินสว่าง ลูกสาวเจ้าของบ้านเล่าว่าตนไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพ และกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อวันเสาร์เพื่อมาเยี่ยมแม่และก่อนเกิดเหตุตนไปดูคนงานปลูกอ้อย ที่บ้านเหลือแม่วัย 82 ปี อยู่กับลูกชายของตนอายุ 25 ปี โดยแม่นอนอยู่ที่ใต้ถุน ส่วนลูกชายนอนอยู่ที่ชั้นบน ระหว่างนั้นตนเห็นควันไฟลอยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจำนวนมากแต่ไม่คิดว่าไฟไหม้บ้านของแม่ จากนั้นลูกชายได้โทรมาบอกว่าไฟไหม้บ้านจึงรีบมาดู ก็เห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านทั่วทั้งหลังส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบเพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้าน



ทางด้าน นายพรเทพ อนุรักษ์จันทรา อายุ 62 ปี ลูกเขยเจ้าของบ้านซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจรับซื้อของเก่าเล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนกำลังทำงานอยู่ที่ร้านซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้าน มีคนงานบอกว่าไฟไหม้บ้านก็ตกใจรีบคว้าถังเคมีดับเพลิงวิ่งมาที่บ้านและรีบขึ้นไปบนบ้านที่ไฟกำลังลุกไหม้เพื่อใช้เคมีดับเพลิงดับไฟที่กำลังลุกไหม้แต่ไม่สามารถดับได้ จากนั้นได้มีคนโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้มาช่วยกันดับไฟ โชคดีที่เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ไม่มีใครได้บาดเจ็บและได้รับอันตรายแต่อย่างใด



สำหรับบ้านหลังนี้เป็นบ้านไม่สักทรงไทย 2 หลังใหญ่เป็นบ้านของแม่ยายส่วนทรัพย์สินที่ถูกไฟไหม้เบื้องต้นมีอาวุธปืน 2 กระบอก พระเลี่ยมทอง อีกหลายองค์และเงินสดที่สำรองเตรียมไว้จ่ายให้ลูกค้าที่นำพลาสติกมาขายอีกกว่า 200,000 บาท มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 5,000,000 บาท



ส่วนสาเหตุเบื้องต้นตนคิดว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจรแต่ไม่รู้ว่าจุดไหน เนื่องจากสายไฟฟ้าภายในบ้านตนก็เปลี่ยนไปเมื่อประมาณ 5 ปี อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสารเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเหตี่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ