กลุ่มเหยื่อถูกลูกตำรวจหลอกซื้อดาวน์รถ ซ้อนแผนขอไถ่รถคืน พยายามล้อมจับในปั๊มน้ำมัน

กลุ่มเหยื่อถูกหลอกซื้อดาวน์รถแล้วไม่ผ่อนต่อ รวมตัวซ้อนแผนขอไถ่รถคืนจากแก๊งแสบ ก่อนพยายามล้อมจับ แต่กลุ่มแก๊งแสบไหวตัวทัน ทิ้งรถไว้แล้วหลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดนัดส่งมอบรถ พบมีตำรวจระดับรองสารวัตรของบ้านโป่ง เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณลานจอดรถภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง บันทึกภาพของรถกระบะ เชฟโรเลต สีแดง ซึ่งเป็นรถของหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ถูกกลุ่มแก๊งแสบหลอกขอซื้อดาวน์รถในราคา 4 หมื่นบาท เพื่อจะขอเอาไปผ่อนต่อ แต่เมื่อได้รถไปแล้ว แก๊งแสบกลับไม่ยอมผ่อนรถต่อตามสัญญา ทำให้หญิงสาวเจ้าของรถต้องรับภาระผ่อนรถต่อ ทั้งที่ไม่ได้ใช้รถ

ซึ่งจากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นชัดเจนว่า รถกระบะสีแดงคันดังกล่าว ถูกขับเข้ามาจอดทิ้งไว้ภายในลานจอดรถของสถานีบริการน้ำมัน ก่อนที่คนขับรถกระบะสีแดง จะลงจากรถแล้วเดินไปขึ้นรถกระบะสีดำอีกคันที่ขับตามมาด้านหลัง ก่อนจะขับออกไปจากสถานีบริการน้ำมันอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่นานมีชายตัดผมสั้นเกรียนคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขับรถยนต์วอลโว่ สีเงิน เข้ามาจอดข้างรถกระบะสีแดง จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ใช้รีโมทเปิดประตูรถกระบะสีแดง แล้วหยิบเอาสิ่งของบางอย่างออกมา แล้วนำไปไว้ในรถตัวเอง

หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มเหยื่อที่ถูกหลอกซื้อดาวน์รถนับสิบคน ได้ขับรถเข้ามาในสถานีบริการน้ำมันอย่างรวดเร็ว เพื่อหวังจะจับตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกซื้อดาวน์รถนี้ให้ได้ แต่ชายคนดังกล่าวไหวตัวทันและรีบขับรถหลบหนีออกไปจากสถานีบริการน้ำมันอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงรถกระบะสีแดง ซึ่งเป็นของหญิงสาวผู้เสียหายถูกจอดทิ้งเอาไว้

เหตุการณ์ต่าง ๆ ในคลิปกล้องวงจรปิดนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 8 มี.ค. หลังจาก นางสาวไอลดา ชูแสง อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะสีแดง ที่ถูกกลุ่มแก๊งแสบ ซึ่งมีนายชนกันต์ บัวทองแจ่ม หรือ เต้ย อายุ 29 ปี เป็นหัวหน้าแก๊ง ก่อเหตุหลอกซื้อดาวน์รถคันดังกล่าวมาในราคา 4 หมื่นบาท แต่จ่ายเงินจริงไปเพียง 1 หมื่น 5 พันบาท

นางสาวไอลดา ได้กล่าวว่า ในวันที่นำรถมาให้นายชนกันต์ดู ที่บ้านของนายชนกันต์ในตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่งนั้น นายชนกันต์อ้างว่า มีเอกสารไม่ครบและไม่มีคนเซ็นเป็นพยานในสัญญา จึงนัดหมายกันมาทำสัญญาอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง โดยมีพ่อของนายชนกันต์ ซึ่งเป็นตำรวจยศร้อยตำรวจตรี และเป็นรองสารวัตรจราจร ของสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง เซ็นเป็นพยานให้ ตนจึงส่งมอบรถให้ เพราะเชื่อใจว่ามีตำรวจเป็นพยานน่าจะไม่มีการโกง แต่สุดท้ายเมื่อนายชนกันต์ได้รถไปแล้ว กลับไม่ยอมจ่ายเงินในส่วนที่เหลือ อีกทั้งไม่ยอมจ่ายค่างวดรถตามที่ทำสัญญาไว้

ตนพยายามไปติดตามที่บ้านของนายชนกันต์ ก็ไม่พบนายชนกันต์ พบเพียงพ่อของนายชนกันต์เท่านั้น ตนพยายามติดตามข่าวคราวและหาข่าวตามกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ จนทราบข่าวว่า นายชนกันต์ นำรถของตนไปหลอกซื้อรถจากผู้เสียหายอีก 3 รายในพื้นที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ตนจึงได้ติดต่อกับผู้เสียหายจนเกิดเป็นการรวมกลุ่มแบ่งปันข้อมูลกันเรื่อยมา

หลังจากเฝ้าติดตามอยู่เป็นเวลานาน พ่อของนายชนกันต์ ซึ่งเป็นตำรวจได้ติดต่อตนกลับมา โดยอ้างว่านายชนกันต์นำรถของตนไปจำนำ ในราคา 8 หมื่นบาท หากตนอยากได้รถคืนก็จะต้องนำเงินค่าไถ่รถจำนวน 1 แสนบาทมาจ่าย จึงจะได้รถคืน หลังจากตนได้ปรึกษากับกลุ่มผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของนายชนกันต์ จึงมีความเห็นร่วมกันว่าจะหลอกซ้อนแผนนายชนกันต์ โดยให้ตนตกลงยอมจ่ายเงินและนัดสถานที่ส่งมอบรถกันที่สถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง สถานที่ทำงานของพ่อนายชนกันต์

แต่เมื่อถึงเวลานัด ปรากฏว่า พ่อของนายชนกันต์ โทรศัพท์มาขอเปลี่ยนสถานที่รับรถเป็นสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งแทน ตนพร้อมด้วยกลุ่มผู้ที่เคยถูกนายชนกันต์และเพื่อนหลอก จึงรวมตัวกันขับรถเข้าไปล้อม หวังจะช่วยกันจับตัวนายชนกันต์ส่งตำรวจให้ได้ แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะพ่อของนายชนกันต์ไหวตัวทันและขับรถหลบหนีไปก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานีบริการน้ำมัน จึงพบว่าสามารถบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้อย่างชัดเจน

หลังได้รถคืน นางสาวไอลดา ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่งเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมได้เข้าแจ้งความเพื่อจะเอาผิดกับนายชนกันต์ด้วย

ทั้งนี้ นางสาวไอลดา กล่าวว่า นอกจากนายชนกันต์แล้ว กลุ่มแก๊งแสบนี้ ยังมีเพื่อนร่วมขบวนการอีกสองคน โดยจะใช้วิธีการหลอกซื้อดาวน์รถจากผู้ที่มีปัญหาทางการเงินจนไม่สามารถผ่อนรถได้ไหว โดยจะจ่ายเงินดาวน์เพียงก้อนเดียวและขอผลัดวันทำการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ จากนั้นกลุ่มแก๊งแสบก็จะขอรับรถไปก่อน เมื่อได้รถแล้วก็จะไม่ผ่อนชำระค่างวดและขาดการติดต่อกับเจ้าของรถรายเดิมทันที ซึ่งที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกก่อเหตุโดยแก๊งแสบนี้มากกว่า 30 ราย ซึ่งทั้งหมดได้รวมตัวไปร้องทุกข์ที่กองปราบปรามเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ พันตำรวจโทจรูญ มหาผล สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง กล่าวว่า ขณะนี้ ได้รับมอบคลิปกล้องวงจรปิดภายในสถานีบริการน้ำมัน มาเป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้สอบปากคำนางสาวไอลดา เจ้าของรถกระบะสีแดง รวมถึงผู้เสียหายอีกหนึ่งคน ซึ่งถูกนายชนกันต์ ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ที่บ้านของนายชนกันต์ในตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่งด้วย

โดยทางตำรวจจะได้ออกหมายเรียกและติดตามตัวนายชนกันต์ มาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด ส่วนพ่อของนายชนกันต์ ที่เป็นตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่งนั้น ก็จะได้เรียกตัวเข้ามาสอบปากคำด้วย หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเอาผิดทางวินัยควบคู่กันไปด้วย

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/EWulTMEO6MU