สังคม

จับกุมและยึดทรัพย์คนสนิท 'สมเด็จพระวันรัต' หลังยักยอกเงินวัดเกือบ 200 ล้าน

โดย kodchaporn_j

3 เม.ย. 2565

79 views

ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการวัดบวรนิเวศวิหาร ร้องเรียนกับตำรวจ ว่า มีลูกศิษย์ของของสมเด็จพระวันรัต ยักยอกเงินของวัดบวรฯ และวัดสาขา ไปใช้ส่วนตัวเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่้งตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนในทางลับ จนกระทั่งบุกจับกุมตัวได้ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา



โดยชุดสืบสวนพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนทราบว่า มีการยักยอกเงินในส่วนของการบูรณะวัดบวรฯ และวัดสาขา กว่า 190 ล้านบาท โดยบุคคลดังกล่าวเป็นลูกศิษย์รายหนึ่ง ที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัต ทำหน้าที่ดูแลบริหารงานภายในวัด ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 ลูกศิษย์รายนี้ ใช้อุบายหลอกลวงสมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน และได้นําใบถอนเงิน ไปเขียนจํานวนเงินตามที่ตนเองต้องการ แล้วนำไปถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากของวัดวชิรธรรมาราม จ .พระนครศรีอยุธยา



ต่อมา ช่วงต้นปี 2565 ลูกศิษย์รายนี้ ยังใช้อุบายหลอกลวงให้สมเด็จพระวันรัต ลงลายมือชื่อในใบถอนเงินอีก แล้วมอบหมายให้ผู้ใกล้ชิดของสมเด็จพระวันรัตอีกคนหนึ่ง เป็นผู้ไปถอนเงิน แล้วนำไปซื้อแคชเชียร์เช็ค จนทางวัดวชิรธรรมาราม พบความผิดปกติ จึงร้องทุกข์มายังตำรวจกองปราบ ให้ดำเนินคดีกับลูกศิษย์รายนี้



หลังจากนั้น ทางวัดบวรฯ ก็เชื่อว่า ลูกศิษย์รายนี้ น่าจะทุจริตยักยอกทรัพย์ของวัดบวรฯ ไปด้วย ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรฯ จึงสั่งให้ตวรจสอบทรัพย์สินสมเด็จพระวันรัต จนพบว่า ประมาณปลายเดือนตุลาคม 2564 มีผู้นำบัญชีธนาคารหลายเล่ม และบัตรประจําตัวประชาชนของสมเด็จพระวันรัต พร้อมโทรศัพท์มือถือไปติดต่อธนาคาร เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ทําธุรกรรม หลังจากนั้นได้ใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสมเด็จพระวันรัต และบัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรฯ ไปยังบัญชีเงินฝากของตนเอง รวมความเสียหาย กว่า190 ล้านบาท



ศาลอาญารัชดา จึงอนุมัติหมายจับลูกศิษย์รายนี้ ในข้อหา ฉ้อโกง, ลักทรัพย์ , ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และ ฟอกเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจค้นบ้านพักของลูกศิษย์รายนี้ ก็พบทรัพย์สินจำนวนมาก ทั้งรถหรู เงินสด อสังหาริมทรัพย์ กระเป๋าแบรนด์เนม พระเครือ่ง ทองคำ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ล่าสุด พนักงานสอบสวนประสานไปยังสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว ส่วนตัวผู้กระทำผิดขณะนี้ถูกขังอยู่ในเรือนจำ



ขณะที่เมื่อวานนี้ (2 เม.ย.) ทางวัดบวรฯ ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่า พบหลักฐานว่า มีบุคคลทุจริต นำทรัพย์สินและเงินในบัญชีของวัดไปเป็นของตนเอง จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม จนกระทั่งจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว คดีอยู่ในระหว่างฝากขังเพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

คุณอาจสนใจ

Related News