สังคม

‘เปิ้ล นาคร’ เล่า เคยตกเรือ 6 ชม. แต่รอดเพราะเสื้อชูชีพ หวัง ‘แตงโม’ มีปาฏิหาริย์

โดย JitrarutP

25 ก.พ. 2565

1.9K views

วันที่ 25 ก.พ 65 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ “เปิ้ล นาคร” นักแสดงและนักเจ็ตสกี, “บอล ธนกฤต” เจ้าของโกดังเก็บเรือ, อ้น และ จอม คนขับเจ็ตสกีที่ร่วมออกค้นหา พร้อมสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ “ดายศ เดชจบ” พี่ชายของ “แตงโม นิดา” หลังนักแสดงสาวพลัดตกเรือไปกลางดึกคืนที่ผ่านมา บริเวณใกล้สะพานพระราม 7



“เปิ้ล นาคร” เปิดเผยว่า หากไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพแล้วพลัดตกกลางแม่น้ำ ซึ่งจุดที่ “แตงโม” พลัดตก ตามที่เพื่อนนักแสดงสาวเล่า คาดว่าจะห่างจากฝั่ง 200 - 300 เมตร การว่ายเข้าฝั่งถือว่าเป็นไปได้ยาก เพราะจะมีอาการจุกจากการกระแทกกับผิวน้ำ



พร้อมเล่าประสบการณ์ว่า ตนเคยตกเจ็ตสกี ลอยคอกลางแม่น้ำเหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นตกไปตั้งแต่หกโมงเย็นถึงเที่ยงคืน ในแม่น้ำน้ำจะไหลพาไปเรื่อยๆ ข้ามไป 3 จังหวัด แต่ตนใส่เสื้อชูชีพ ถ้า “แตงโม” ใส่เสื้อชูชีพ ตนมั่นใจว่าจะรอดล้านเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพเวลาตกน้ำจะมีอาการจุก ซึ่งตนมองว่าการใส่เสื้อชูชีพเป็นเรื่องสำคัญมาก


“คิดเหมือนคนไทยทั้งประเทศ ไม่อยากให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น ก็อยากให้ทุกคนป้องกันตัวเองในกฎกติกาที่เขาวางไว้ทุกอย่างใส่หมวก ใส่ชูชีพ ถุงมือ เล่นกีฬาอะไร ทำตามกฎกติกาที่เขาวางไว้” เปิ้ล นาคร กล่าวทิ้งท้าย...


ด้าน “บอล ธนกฤต” กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. คนขับเรือพร้อมเพื่อนของ “แตงโม” ได้กลับมาที่โกดัง โดยคนขับเรืออ้างว่า “แตงโม” ต้องการไปปัสสาวะด้านหลังเรือ จึงคาดว่าลื่นและพลัดตกน้ำ ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ยังไม่สามารถติดต่อกับคนขับเรือได้



ช่วงเวลาที่เพื่อนของ “แตงโม” โทรแจ้งว่ามีการพลัดตกน้ำ เป็นช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. คนริมน้ำจะเรียกว่า “กระแสน้ำตาย” ผิวน้ำด้านบนจะนิ่งสนิท แต่ด้านใต้จะยังคงมีการไหลเวียนของน้ำอยู่ ซึ่งช่วงเวลานั้นกระแสน้ำจะพัดมุ่งหน้าออกทะเล แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 23.00 น. ดันเป็นช่วงน้ำขึ้น กระแสน้ำพัดไปยังสะพานพระราม 5 ซึ่งเป็นอีกฝั่งหนึ่ง นั่นหมายความว่าจะสามารถพัดไปได้ทั้งซ้ายและขวา



ส่วนกรณีการค้นหาตนก็อยากให้เกิดปาฏิหาริย์ แต่ต้องยอมรับว่าเป็นไปได้ยาก เพราะถ้าคนตกน้ำ ใช้เวลา 5 - 10 นาที ต้องสามารถขึ้นฝั่งได้แล้ว เกินกว่านั้นถือว่ายากมาก



คุณอาจสนใจ

Related News