ชาวบ้านร้อง มิจฉาชีพอ้างเป็นพนง.การไฟฟ้าฯ หลอกติดตั้งเซฟทีคัทเก๊ คิดเงินแพงเกินจริง

จากกรณีเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เกิดเพลิงไหม้กุฏิหลังใหญ่ที่ปลูกสร้างด้วยไม้สัก อายุเกือบ 100 ปี รวม 5 ห้อง ภายในวัดป้อมแก้ว ตลาดแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม วอดหมด และมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสำลักควัน 1 รายนั้น



เหตุการครั้งนี้ ทำให้มีกลุ่มมิจฉาชีพอ้างเหตุเพลิงไหม้วัดป้อมแก้ว แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาขอตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านชาวบ้านในตำบลแม่กลอง โดยกล้องวงรปิดจับภาพชัดเจนมีรถโตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ขับเข้ามาในชุมชนวัดใหญ่ ตำบลแม่กลอง และมีชายหลายราย (ประมาณ 4 คน) เดินเข้าตามบ้านต่างๆ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ้างเหตุการณ์ไฟไหม้วัดป้อมแก้วขอตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน หลอกติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟ (เซฟทีคัท) ทั้งที่ไม่ใช่อุปกรณ์ตัดไฟจริง และยังเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่างในราคาที่แพงเกินจริง โดยมีผู้เสียหายหลายราย ในจำนวนนี้คือ นางสมจิตร พุ่มพวง 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205/1 ชุมชนวัดใหญ่ ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม



นางสมจิตร กล่าวว่า เมื่อช่วงสายวันนี้ มีกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นพนักงานการไฟฟ้า เข้ามาขอตรวจสอบระบบไฟฟ้าเมนหลักในบ้าน เพราะไฟไหม้วัดป้อมแก้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนจึงพาขึ้นไปบนบ้าน ผู้ก่อเหตุก็ไขแผงไฟฟ้า ตนจึงถามว่าทำฟรีไหม เขาก็อึ้งเงียบไม่ตอบ แต่พอถอดเสร็จเขาก็บอกว่าต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ติดตั้งเซฟทีคัทในราคา 2,500 บาท แล้วก็กลับไปทันที พอหลานที่มีความรู้เรื่องไฟฟ้า กลับบ้านมาก็รีบขึ้นดูก็พบว่าเป็นกล่องไฟทั่วไปไม่ใช่เซฟทีคัท ที่สำคัญราคาในท้องตลาดประมาณ 650-800 บาท เท่านั้น ตนเสียความรู้สึกมากไม่คิดว่าจะมาถูกหลอก



นางสุภากรณ์ ช่อโต อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205 ชุมชนวัดใหญ่ ต.แม่กลอง กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุขับรถปิกอัพเข้ามาในชุมชนแล้วประกาศขายเครื่องตัดไฟ (เซพทีคัท) จากนั้นเดินเข้ามาอ้างว่า เหตุเกิดเพลิงไหม้ที่วัดป้อมแก้วทำให้หน่วยงาน ไม่ได้บอกว่าหน่วยงานอะไร แต่มีป้ายคล้องคอ เข้ามาขอดูปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟในบ้าน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย และพูดโน้มน้าวให้ย้ายอุปกรณ์ และเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ตนบอกไม่มีเงิน ขอเบอร์ไว้ และจะโทรศัพท์ไปตามให้มาทำ เขาก็บอบกว่าไม่มี แล้วก็เดินออกไปทันที



ต่อมา นางสมจิตร เดินทางเข้าพบร้อยตำรวจเอกชนาธิป โอ่งเคลือบ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนอ้างดังกล่าว ซึ่งอาจจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน จึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อให้ตำรวจตามตัวมิจฉาชีพกลุ่มนี้มาดำเนินคดีเพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอีก



ด้านนายพฤกษ์สรวง บุญดำเนิน พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสมุทรสงคราม กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนหลายพื้นที่ วันนี้ทราบว่ากลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาในตำบลแม่กลอง บริเวณวัดป้อมแก้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบและเข้าพบพระครูสมุทรวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดป้อมแก้ว เพื่อเตือนทางวัดไม่ให้หลงเชื่อ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่างหลงเชื่อบุคคลที่มาแอบอ้างเป็นพนักงานของการไฟฟ้าฯ ซึ่งพนักงานของการไฟฟ้าจะดูแลในส่วนของสายส่งไม่ได้ครอบคลุมดูแลถึงในส่วนบ้านเรือนของชาวบ้าน และเป็นเพียงผู้ให้คำแนะนำ แต่ไม่สามารถดำเนินการเปลี่ยนได้ ซึ่งหากมีกลุ่มคนมาแอบอ้างในลักษณะนี้ให้สงสัยว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ อย่างไรก็ตามถ้าประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษา หรือร้องเรียนสามารถโทรสอบถามศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า 1129 PEA Call Center หรือหากพบมิจฉาชีพมาให้บริการในลักษณะดังกล่าว ควรแจ้งตำรวจในพื้นที่มาตรวจสอบทันที