ฝรั่งเครียดทำร้ายตัวเอง ทุบโถส้วมมือเหวอะเลือดอาบ ตร.พังประตูเข้าช่วยทัน

ตร.พังประตูช่วยฝรั่งคลั่งทำร้ายตัวเอง พบแผลเหวอะที่มือจนเลือดสาดเต็มห้อง พอเมียคนไทยมาถึงจึงสงบ คาดเมาแล้วเครียด

เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 31 ก.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบชาวต่างชาติคลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเองอยู่ภายในบ้านพักซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ ใน ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล ได้รับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสำนักงานที่ปรึกษาด้านเภสัชกรรม พบกับพนักงานที่อยู่ด้านหน้าสำนักงาน ก่อนจะพาขึ้นไปบนชั้น 3 เป็นห้องนอนที่ชาวต่างชาติกำลังคลุ้มคลั่งอยู่ภายใน พยายามเรียกให้เปิดประตูออกมา แต่ก็ไม่ยอมเปิดมีแต่เสียงดังโครมครามเหมือนกำลังพังข้าวของอยู่ภายในห้อง ต่อมาภรรยาของชาวต่างชาติที่กำลังคลุ้มคลั่งซึ่งเป็นคนไทย ได้โทรศัพท์บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอนุญาตให้พังประตูเข้าไปได้เลย เพราะเกรงว่าสามีชาวต่างชาติที่กำลังเครียดจะเกิดอันตราย

หลังจากที่เจ้าหน้าที่พังประตูเข้าไป พบว่าภายในห้องมีหยดเลือดเต็มพื้นห้องกระจัดกระจายเต็มพื้นไปทั่ว พบร่างของชาวต่างชาติใส่กางเกงในตัวเดียวนอนหงายอยู่บนเตียงนอน ที่มือด้านซ้ายมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก พบเป็นแผลฉีกขาด โดยอาการเริ่มสงบลงนอนอยู่บนเตียง และพบขวดสุรา 1 ขวด

จากการสอบถามพูดจาไม่รู้เรื่อง พบมีอาการเมาสุรา และไม่ยอมไปรักษาที่โรงพยาบาล ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเข้าไปทำแผลให้ ตรวจภายในห้องน้ำพบโถชักโครกแตกกระจายและมีรอยเลือดหยดติดอยู่ ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บคลุ้มคลั่งใช้มือทุบจนเกิดบาดแผลเหวอะ และยังพบมีดสปาร์ต้าวางอยู่ที่บนหัวเตียง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบเก็บมาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ต่อมาภรรยาชาวไทยที่รีบเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ได้เข้าไปพูดคุยจนอาการเริ่มสงบลง แต่ก็ยังปฏิเสธไม่ไปรับการรักษา

ภรรยาชาวไทย กล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุกำลังอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา สามีได้โทรศัพท์ไปหา และเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาขณะกำลังคุยโทรศัพท์ ก่อนจะวางสายไป จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ก่อนจะรีบขับรถกลับมา ซึ่งสามีมักจะมีอาการเครียดเป็นประจำ จึงเป็นห่วงว่าจะทำร้ายตัวเองจนถึงแก่ชีวิต ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มาช่วยไว้ทันก่อนจะเกิดเหตุร้ายไปกว่านี้

จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นคนสัญชาติฟินแลนด์ เปิดสำนักงานที่ปรึกษาด้านเภสัชกรรมและการปฏิบัติตามข้อบังคับ อยู่ใน จ.ระยอง