‘ทอม เครือโสภณ’ โต้ถูกจับปมนำเข้ากัญชา ลั่น โดนซุปเปอร์เฟคนิวส์ เพราะตนทำอย่างถูกต้อง

“ทอม เครือโสภณ” นักธุรกิจชื่อดัง โต้ข่าวถูกจับปมนำเข้ากัญชา 9.5 กิโลกรัม ชี้ตนทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมลั่น โดนซุปเปอร์เฟคนิวส์



กรณีที่เป็นกระแสข่าวออกมาว่า นายทอม เครือโสภณ นักธุรกิจชื่อดัง ถูกจับกุมในข้อหาการนำเข้ากัญชา จำนวน 9.5 กิโลกรัม ล่าสุด “ทอม เครือโสภณ” ได้โพสต์คลิปวิดีโอชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า อดขำไม่ได้ ผมไม่ได้โดนจับ ไม่มีอะไรเลย มึนมาก เฟคนิวส์บอกว่าผมถูกจับนำกัญชาเข้ามาจากต่างประเทศ ผมเอามาครับไม่ได้เถียง แต่เราทำตามถูกกฎหมาย เรามีเอกสารที่ทำภายใต้คลินิกเรา ไม่มีอะไรครับ ไม่ได้โดนจับ ผมนั่งอยู่ในรถ ฝากพี่ๆ ทุกคนที่เป็นห่วงเป็นใย แต่เฟคนิวส์นี้เพื่อทำลาย ไม่เป็นไร



ผมเพิ่งได้เห็นข่าว ซุปเปอร์เฟคนิวส์เลยตั้งแต่เห็นมา ประเทศไทยนี่มันดีอย่าง มันทำลายกันได้ง่ายๆ แบบนี้เลยนะ ผมไม่ได้โดนจับ ไม่ได้กักตัว ตำรวจไม่ได้มาจับ ผมนั่งในรถ สิ่งที่ผมทำไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร บอกให้ทุกคนทีเป็นห่วงเป็นใย ซุปเปอร์เฟคนิวส์ ผมไม่ได้ถูกจับอะไรเลย

ขณะเดียวกัน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า นายทอม ได้อัดคลิปการนำเข้าช่อดอกกัญชาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาประเทศไทย และบอกว่าสามารถสั่งซื้อ พร้อมแสดงเอกสารการส่งสินค้าเข้ามาในไทย ว่า เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ประจำท่าอากาศสุวรรณภูมิ ตรวจพบสินค้าที่ระบุชื่อผู้รับเป็นนายทอม ซึ่งสำแดงว่าเป็นสินค้าเหล็ก แต่จากการตรวจสอบกลับพบว่าภายในเป็นกัญชา น้ำหนัก 9.5 กิโลกรัม เข้าข่ายเป็นความผิดต่อกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.กักพืช และ พ.ร.บ.ศุลกากร



จึงได้หารือกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว เห็นว่าควรพิจารณาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ฐานสำแดงเท็จ ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้ให้ตัวแทนกรมศุลกากร เข้าแจ้งความและประสานให้พนักงานสอบสวน สภ.สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่เกิดเหตุ พิจารณาออกหมายเรียกนายทอม มารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันนี้



โดยได้ขอให้ตำรวจดำเนินคดีทั้งนายทอม ในฐานะที่เป็นผู้สั่งซื้อ และดำเนินคดีกับบริษัทนำส่งสินค้า ที่ทราบว่ามีต้นทางมาจากสหรัฐอเมริกา ส่วนที่ว่าเจ้าตัวจะให้การอย่างไร ก็ให้เป็นเรื่องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่การตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง พบว่า นายทอม เคยสั่งซื้อสินค้าให้นำเข้าโดยการสำแดงเท็จมาแล้ว 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรก พบว่าสินค้าที่สำแดงกับด่านศุลกากร แจ้งว่าเป็นของตกแต่งคริสต์มาส และพื้นยาง ก่อนที่ครั้งที่ 3 จะสำแดงเป็นสินค้าเหล็ก ซึ่งครั้งนี้มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน สามารถเอาผิดได้ ส่วนใน 2 ครั้งแรก จะส่งข้อมูลให้พนักงานสอบสวน ไปพิจารณานำสืบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป