ผู้ว่าฯกทม. เผยโควิดใน กทม. ยังไม่น่าห่วง ยันรองรับได้ สั่งเพิ่มอีก 800 เตียง

ผู้ว่าฯกทม. เผยสถานการณ์โควิด กทม. ยังไม่น่าเป็นห่วง ยังรองรับสถานการณ์ได้ สั่งเพิ่มเตียงสีเขียวและสีเหลือง เตรียมพร้อมอีก 800 เตียง ยอมรับเป็นห่วงกลุ่มเปราะบาง 608 ขอให้เร่งรับวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3 และเข็ม 4

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในกรุงเทพมหานครว่า ตอนนี้ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จากการตรวจ ATK และคาดว่ามีผู้ป่วยที่รักษาตัวเองอยู่ที่บ้านด้วย แต่จากการประเมินสถานการณ์แล้วไม่น่าเป็นห่วง เบื้องต้นเตียงสำหรับผู้ป่วยสีแดง ยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้ และได้สั่งเพิ่มเตียงสำหรับผู้ป่วยสีเขียว 500 เตียง และเตียงในศูนย์พักคอยอีก (CI) 300 เตียง พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าสำรวจออกซิเจน สต็อกยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมลนูพิราเวียร์

แต่ยังคงเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค สวมหน้ากากอนามัย เพราะเป็นห่วงกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ที่คนวัยทำงานจะเอาเชื้อไปติดภายในบ้าน จึงอยากขอให้ประชาชน ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3 และเข็ม 4 ด้วย โดยสามารถเดินทางไปที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เปิดให้ประชาชน walk in มาฉีดวัคซีนได้ทุกวัน หรือศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 50 เขต ในกทม.ที่เปิดให้บริการฉีดวัคซีนทุกวันศุกร์

ขณะเดียวกัน กทม.ยังรายงานตัวเลขการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ของประชาชน ตอนนี้อยู่ที่ 5,728,273 โดส หรือคิดเป็น 68.10 % ส่วนเข็ม 4 อยู่ที่ 1,850,993 โดส หรือคิดเป็น 22.01%

ขณะที่การติดเชื้อในกลุ่มโรงเรียนสังกัด กทม. ก็ไม่น่าเป็นห่วง จากตัวเลขพบการติดเชื้อเพียง 0.84 % หรือ 2,133 คน ส่วนเด็กนักเรียนที่ไม่ติดเชื้อมีมากถึง 251,382 คน คิดเป็น 99.16% ส่วนใหญ่จะพบการติดเชื้อในเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก เพราะเด็กโตจะมีกิจกรรมหลังเลิกเรียน เช่น เล่นกีฬา

สำหรับข้อมูลศูนย์พักคอยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า จำนวนศูนย์พักคอยเติมเต็มศักยภาพ 46 แห่ง 5,505 เตียง ขอปิดศูนย์พักคอยในช่วงสถานการณ์ดีขึ้น คือพื้นที่โรงเรียน เจ้าของขอคืนพื้นที่ 39 แห่ง ส่วนศูนย์พักคอย ที่ยังคงเปิดให้บริการมี 1 แห่ง คือศูนย์พักคอยเขตคันนายาวจำนวน 127 เตียง

สำหรับศูนย์พักคอยที่เตรียมพร้อมสามารถเปิดให้บริการได้ใน 3-7 วัน ต้องมีการปรับปรุงพื้นที่และอุปกรณ์ 4 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์สร้างสุขทุกวัยเขตบางกอกใหญ่จำนวน 50 เตียง ศูนย์พักคอยวัดกำแพงเขตภาษีเจริญจำนวน 100 เตียง ศูนย์สร้างสุขทุกวัยเขตทุ่งครุจำนวน 51 เตียง และ ศูนย์พักคอยมีนบุรี 1 เขตมีนบุรีจำนวน 115 เตียง รวมจำนวนเตียงที่สามารถเปิดเพิ่มได้ 316 เตียง

นอกจาก ผู้ว่าฯกทม.ยังพูดถึงแผนการซ้อมเผชิญเหตุด้านสาธารณภัย ที่เป็นข้อสั่งการจากกระทรวงมหาดไทย จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ ที่เยาวราช และซอยบ่อนไก่ ปัญหาที่พบคือ การทำงานที่ต่างคนต่างทำ ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน และไม่มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ ดังนั้นจึงต้องทำแผนรับมือสาธารณภัย เช่น การซ้อมเผชิญเหตุ การพัฒนาอุปกรณ์ ฐานข้อมูลพื้นที่จุดเสี่ยง และการจัดขึ้นทะเบียนให้อาสาสมัครดับเพลิง อาสาสมัครกู้ภัย และอาสาสมัครกู้ชีพ เครื่องแบบต้องชัดเจน และจัดการอบรมด้านการจัดการด้านสาธารณภัย ให้มีแผนระยะกลาง และระยะยาว