ร้อนทั้งคู่! เตือนสาวจอดรถที่ห้ามจอด ถูกด่ากลับ ขับรถจะพุ่งชน หนุ่มโมโหชกรถ คว้าท่อนเหล็กวิ่งตาม

ร้อนทั้งคู่! หนุ่มเตือนสาวจอดรถในที่ส่วนบุคคลที่ตั้งกรวยห้ามจอดไว้ กลับโดนด่า และขับรถพุ่งจะชน หนุ่มไม่พอใจ ชี้เป็นเจตนาฆ่า เลยใช้กำปั้นชกรถ 1 ที และคว้าท่อนเหล็กจะข่มขู่ ระบุคนเราด่ากันได้ แต่ไม่ใช่จะขับรถมาพุ่งชนใครก็ได้ แจ้งความแล้วคดียังไม่คืบ พร้อมจบเรื่องหากอีกฝ่ายมาขอโทษ แต่อยากให้ได้รับบทเรียน

เพจทนายคู่ใจ เผยคลิปจากกล้องวงจรปิดที่หน้าอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งภายในซอยวิภาวดี 16 ระบุว่า เหตุการณ์คือ แจ้งให้เลื่อนรถ เพราะตรงนี้ห้ามจอด แล้วหลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ตามที่เห็นในคลิป ดูคลิปจบแล้ว คิดเห็นยังไงกันบ้าง?

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดมุมแรก จะเห็นว่าที่บริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ มีการตั้งกรวยสีแดงขวางเอาไว้ จากนั้นได้มีรถมินิคูเปอร์สีแดงขับเข้ามาและพยายามจะถอยรถเข้าจอดในช่องตรงกลางระหว่างกรวย 2 อัน โดยมีผู้หญิงเป็นคนขับและมีชายฝรั่งลงมาช่วยโบก

จากนั้นทั้งคู่ก็เดินข้ามถนนมาอีกฝั่ง แล้วได้มีผู้ชายอีกคน เดินเข้าไปพูดคุย ชี้ไปที่รถ บอกว่าจอดไม่ได้ ผู้หญิงจึงมีการโต้เถียงเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับที่รถด้วยท่าทีตึงตัง และยูเทิร์นรถมายังจุดที่ผู้ชายยืนอยู่ และมีจังหวะกระชากรถใส่ จนผู้ชายต้องถอยหลบ ผู้ชายจึงเอามือชกไปที่กระจกรถ 1 ครั้ง

ขณะที่คลิปอีกมุม จะเห็นว่า จังหวะที่ผู้หญิงยูเทิร์นรถกลับมาแล้ว และถูกผู้ชายชกกำปั้นเข้าที่กระจก ผู้หญิงได้ขับรถพุ่งขึ้นไปด้านหน้าแล้วจอดรถกลางถนน ผู้ชายก็ได้วิ่งกลับไปหยิบท่อนเหล็กจากท้ายรถตัวเอง แล้วเอามาวิ่งไล่รถมินิคูเปอร์ ฝ่ายผู้หญิงจึงขับรถมินิคูเปอร์หนีออกไปทันที ซึ่งผู้ชายยังคงถือท่อนเหล็กวิ่งไล่ตาม

ทีมข่าวไปพูดคุยกับ นายเอ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้ชายที่อยู่ในคลิป โดยนายเอเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ได้เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีรถมินิคูเปอร์สีแดง ขับเข้ามาจอดที่ด้านหน้าตึกของตน ซึ่งเป็นที่ส่วนบุคคล และบริเวณที่จอดรถนั้น ตนได้เอากรวยมาวางกั้นไว้เป็นสัญลักษณ์ห้ามจอด เพราะจะมีรถของผู้รับเหมามาจอด เนื่องจากตึกอยู่ระหว่างการปรับปรุง แต่รถมินิคูเปอร์คันนี้ ไม่ได้สนใจ ยังพยายามจะถอยเพื่อแทรกจอดตรงกลางระหว่างกรวย 2 อัน

จากนั้น คนขับรถที่เป็นผู้หญิงมาพร้อมกับผู้ชายฝรั่งที่อุ้มสุนัขอยู่ เดินข้ามถนนมาเพื่อจะทานข้าวที่ศูนย์อาหาร ตนจึงเดินเข้าไปบอกว่า “ขอโทษนะครับ ตรงนี้เป็นที่จอดรถของที่ตึก จอดไม่ได้นะครับ” ฝ่ายผู้หญิงก็มีท่าทีเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที หันกลับมาพูดใส่ตนทันทีว่า “มีปัญหาอะไรไอ้ควาย” ตอนนั้นตนเลยโมโหขึ้นมาว่า แค่บอกดี ๆ ทำไมต้องมาด่ากันแบบนี้ ตนเลยด่ากลับ แล้วก็มีการด่ากันไปมาอยู่สักพักหนึ่ง

จากนั้น คู่กรณีก็เดินกลับไปที่รถ ตนก็นึกว่าเรื่องจบแล้ว จึงเดินกลับออกมา ปรากฏว่าคู่กรณียังเปิดกระจกตะโกนด่าตนไม่หยุด แล้วยูเทิร์นรถมาฝั่งที่ตนยืนอยู่ โดยชัดเจนว่าพุ่งมาหาตน แต่ตนหลบทัน เพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าคู่กรณีเจตนาจะขับรถชนตน เนื่องจากลักษณะของการขับรถเหมือนไม่พอใจ มีบางจังหวะที่เร่งเครื่องกระชากรถจนเกือบจะชนกับรถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่มาอีกฝั่งด้วย

โดยเมื่อเห็นว่าคู่กรณีตั้งใจจะขับรถพุ่งชนตน ตนเลยใช้กำปั้นชกไปที่กระจกรถ แต่ชกแค่เบา ๆ ไม่ได้เจตนาจะทำลายทรัพย์สิน แค่ต้องการจะเตือนว่าไม่ควรทำแบบนี้ แต่คู่กรณีคงยังโมโห เร่งเครื่องขึ้นไปด้านหน้า แล้วเข้าเกียร์ถอย จะถอยมาชนตนอีก

ตอนนั้นตนเลยต้องป้องกันตัว ไปหยิบเหล็กที่อยู่ที่รถ เพื่อจะขู่ว่า ถ้าถอยมาชน ตนจะฟาดรถ จากนั้น คู่กรณีก็ขับหนีออกไป ตนก็ถือเหล็กวิ่งไล่ตามแค่ไม่นาน จากนั้นคู่กรณีก็วนรถกลับมาเพื่อรับฝรั่ง แล้วยังคงด่าตนอีก แต่ตนไม่ทำอะไรผู้หญิงอยู่แล้ว ถ้าจะทำจริงทำตั้งแต่แรก มองว่าคนเราทะเลาะกันด่ากันได้ แต่ไม่ควรขับรถมาพุ่งชนคนอื่นแบบนี้

โดยตนเชื่อว่า คู่กรณีมีเจตนาที่จะวนรถมาพุ่งชนตนจริง ๆ เนื่องจากตอนแรกที่จอดรถไว้ รถหันหัวไปทางถนนรัชดาภิเษก แต่คู่กรณีวนรถกลับมาหาตนที่มุ่งหน้าทางฝั่งถนนวิภาวดี และหลังจากเกิดเหตุแล้ว คู่กรณีก็วนรถอีกครั้ง เพื่อกลับออกไปทางถนนรัชดาภิเษก ดังนั้น ถ้าไม่ได้เจตนา ก็ควรจะขับออกไปทางถนนรัชดาภิเษกตั้งแต่แรก ไม่ใช่วนกลับมา และที่ที่มาจอดรถก็เป็นที่ส่วนบุคคล ถ้าเป็นถนนหลวงตนจะไม่ไปยุ่งเลย

ทั้งนี้ ยืนยันว่าที่ตนเอาท่อนเหล็กออกมา ไม่ได้มีการฟาดไปโดนที่รถ แค่ถือเพื่อป้องกันตัว ไล่ให้อีกฝ่ายหนีไป เพราะก็ไม่รู้ว่าในรถคู่กรณีมีอาวุธหรือไม่ หากมีปืนแล้วลงมายิงตนจะทำอย่างไร และตนยอมรับว่าตัวเองอารมณ์ร้อน แต่ไม่ใช่ว่าคุมสติไม่ได้เลย ตนไม่ได้ไปทำรุนแรงใส่อีกฝ่าย ถ้าจะมาพุ่งชนตนขนาดนี้ ตนจะสตาร์ทรถขับไล่ชนก็ได้ แต่ตนไม่ทำ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สน.สุทธิสาร แต่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้เรียกทั้งตนและคู่กรณีไปสอบปากคำ โดยอ้างว่าติดคดีบ่อนอยู่ แต่ส่วนตัว ตนอยากจะแจ้งข้อกล่าวหาเจตนาฆ่า เพราะดูจากพฤติกรรมของคู่กรณีที่จะขับรถมาพุ่งชน หากชนขึ้นมาจริง ๆ ไม่ตายก็พิการ ซึ่งหลังจากนี้หากทางคู่กรณีจะขอโทษตน ตนก็อยากจะจบเรื่อง แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะให้เป็นบทเรียนกับคู่กรณีว่าจะไปทำกับคนอื่นแบบนี้ไม่ได้