สังคม

‘พ่อค้าทุเรียน’ แค้นจัด โจรงัดอุบายตีเนียนขโมยหมอนทอง 80 กก. สุดช้ำ ยังไปช่วยขนขึ้นรถ

โดย JitrarutP

5 ก.ค. 2565

309 views

“พ่อค้าทุเรียน” แค้นจัด โจรตีเนียนคุยฟุ้ง ขอซื้อ “หมอนทอง” 80 กก. ไปขายมาเลเซีย พ่อค้าใจดีไปช่วยขนขึ้นรถ ก่อนงัดกลอุบายทำท่าทีโอนเงินไม่เข้า ขับรถชิ่งหนี วอนตำรวจเร่งตามตัว


ภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดบริเวณหน้าร้านขายผลไม้ บริเวณริมถนนสายชุมชนหนองน้ำเย็น 4 เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมืองระยอง บันทึกเหตุการณ์ชายสวมเสื้อยึดแขนสั้นสีเขียวอ่อน สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน กำลังยืนดูและช่วย นายมาณ (พ่อค้า) ขนทุเรียนหมอนทองจำนวน 80 กิโลกรัม ขนขึ้นรถกระบะสีขาว ด้านหลังไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งหลังขนทุเรียนขึ้นรถเสร็จได้เกิดเรื่องราวโต้แย้งถึงการโอนเงินชำระค่าทุเรียนที่เงินไม่เข้าบัญชีธนาคาร



นายมาณ เล่าว่า รอบแรกโอนให้เรียบร้อยดี จำนวน 130 บาท เป็นค่าทุเรียนปลอก จำนวน 1 กิโลกรัม ก่อนชายคนดังกล่าวจะขับรถกลับไป สักพักเขาได้ขับรถมาใหม่อีกครั้ง มาชมว่าทุเรียนอร่อยแล้วขอเหมาทุเรียนไปจำนวน 80 กิโลกรัม เพื่อจะไปส่งขายยังประเทศมาเลเซีย



หลังขนทุเรียนขึ้นรถกระบะเสร็จก็เกิดปัญหาในเรื่องของการชำระเงิน โดยชายคนดังกล่าวขอชำระเงินผ่านแอปธนาคารทางโทรศัพท์ พร้อมโชว์สลิปเก่าให้ดูค่าทุเรียนรอบแรกที่ซื้อกินก่อนในราคา 130 บาท โดยอ้างว่ายอดรอบ 2 ที่เหมาทุเรียน 80 กิโลกรัม ยอดเงิน 7,600 บาท เงินก็เข้าแล้ว ซึ่งพอตนเช็คยอดในธนาคารปรากฏว่าเงินไม่เข้าจึงเกิดการโต้เถียงกันชายคนดังกล่าวที่มีท่าทีร้อนรน



พร้อมอ้างกับตนว่าเขาไม่ใช่มิจฉาชีพ แต่ระบบธนาคารน่าจะมีปัญหาเลยขอไปกดเงินที่ตู้อื่นในละแวกใกล้เคียงอีกสักรอบ  ตนจึงขับรถ จยย.ตามไปกดเงินด้วย ซึ่งในรอบสองเงินก็กดออกมาไม่ได้และเป็นจังหวะที่ลูกสาวและเพื่อนลูกสาวตามมาช่วยดูเหตุการณ์พอดี



ชายคนดังกล่าวจึงออกอุบายว่าจะไปเอาเงินที่พี่สาวที่จอดรถรออยู่ที่สะพานลอยริมถนนสุขุมวิท จุดใกล้เคียงสามแยกวัดโขดหิน-เขาไผ่ เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จังหวัดระยองและเมื่อไปถึงยังสะพานลอย ลูกสาวและเพื่อนได้ลงจากรถแล้วรออยู่สักพักก็ไม่พบกับพี่สาวของชายคนดังกล่าว ลูกสาวและเพื่อนจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นขอยกทุเรียนลงไว้ตรงที่ริมถนนก่อน และในจังหวะที่ลงจากรถเพื่อขนทุเรียนลงรถ จู่ๆ ชายคนดังกล่าวได้รีบขับรถหนีออกไปในทันที



เบื้องต้นตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน แต่ด้วยระยะเวลาผ่านไปหลายวันเกรงคดีจะไม่คืบจึงขอให้สื่อนำเสนอเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายผลไม้ให้ระมัดระวัง



อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. มาบตาพุด ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งแกะรอยรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งพบว่าแผ่นป้ายทะเบียนของรถในขณะเกิดเหตุที่ติดด้านหน้าเป็นทะเบียนปลอม ส่วนบัญชีธนาคารในยอด 130 บาท พบว่าเป็นชื่อของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News