‘ชัชชาติ’ ถก กรมราชทัณฑ์ นำนักโทษชั้นดี ลอกท่อ ตั้งเป้า 500 กม. ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้

วันนี้ (7 มิ.ย.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. แถลงภายหลังการประชุมหารือ ระหว่างกทม.และกรมราชทัณฑ์ เรื่องการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในกรุงเทพมหานคร โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้เป็นการร่วมมือตามแนวคิดของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ได้ดำริให้มีการร่วมมือกันในการลอกท่อระบายน้ำโดยผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ ตนจึงได้เชิญอธิบดีกรมราชทัณฑ์ มาหารือ เพราะที่ผ่านมาลงพื้นที่ ชาวบ้านมักจะบอกว่าผู้ต้องขังลอกท่อระบายน้ำได้ดี และสามารถทำให้ผู้ต้องขังทำประโยชน์ให้แก่สังคม และมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

“ต้องย้ำว่า การจ้างผู้ต้องขัง ต้องมีหลักสิทธิมนุษยชน และปฏิบัติเหมือนคนปกติ ทั้งเรื่องค่าแรง และสวัสดิการ และต้องมาทำด้วยความสมัครใจ”

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน กทม.มีท่อระบายน้ำที่จำเป็นต้องลอกทำความสะอาด 6,500 กิโลเมตร โดยสำนักการระบายน้ำดูแลเส้นเลือดใหญ่อยู่ราว 2,000 กม. ส่วนแต่ละเขตดูแลเส้นเลือดฝอยที่เป็นท่อย่อยประมาณ 4,500 กม. ปีนี้ได้ลอกไปแล้วประมาณ 2,000 กม. แต่ในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 2565 (มิย.-กย.) ยังพอมีงบประมาณเหลืออยู่ จึงได้หารือกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โดยให้กรมราชทัณฑ์เริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ก.ค.ที่จะถึงนี้เลย และให้ทำให้ได้มากที่สุด โดยจะให้สำนักงานเขตแห่งหาจุดที่ต้องลอกท่อมา

ทั้งนี้กทม.สามารถจ้างกรมราชทัณฑ์โดยตรงได้ เพราะเป็นรัฐบาล-รัฐบาล แต่ถ้าสามารถทำได้ก่อน 1 ก.ค. จะยิ่งเป็นเรื่องดี เพราะปัญหาน้ำท่วมไม่รอ

นายชัชชาติ กล่าวว่า  เบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายขุดลอกท่อ 500 กิโลเมตร โดยใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ถึงแม้เอกชนจะเสนอราคาต่ำ แต่คุณภาพกลับไม่ได้ ดังนั้นในเรื่องของราคา ไม่สามารถเปรียบเทียบกับเอกชน ซึ่งมั่นใจว่าราชทัณฑ์จะทำได้ดีกว่า

นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ในช่วงการลอกท่อ ตนอยากขอความร่วมมือจากประชาชนในละแวกนั้นให้ออกมาดูด้วย เพื่อจะรู้ว่าภายในท่อมีอะไรอุดตันอยู่บ้าง เพราะบางแห่งมีไขมันอุดตัน แสดงว่าบ้านเรือนแถวนั้น ทิ้งไขมันลงมาจึงเกิดการอุดตัน เมื่อมาดูก็จะได้เห็นว่าเราต้องให้ความร่วมมืออย่างไร ไม่ใช่ลอกท่ออย่างเดียว แต่ประชาชนควรให้ความร่วมมือในการติดตั้งบ่อดักไขมัน จึงจะเกิดการสร้างความร่วมมือกันทั้ง 2 ฝ่าย

กทม.จะเริ่มจ้างกรมราชทัณฑ์ ให้นำผู้ต้องโทษออกมาลอกท่อระบายน้ำ โดยเลือกนักโทษชั้นเยี่ยมก่อน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ ส่วนการจ้างแรงงานนักโทษ ผ่านกระบวนการระหว่างรัฐ ตามกฏกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องส่งเสริมหรือสนับสนุน ปี 2563 โดยไม่ต้องเข้ากระบวนการ e-bidding ซึ่งก่อนหน้านี้ เหตุที่ กทม.ไม่สามารถจ้างกรมราชทัฑณ์ได้ เนื่องจากมีเงื่อนไขตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ.2560

นายอายุฒน์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์จะเร่งคัดเลือกผู้ต้องขังชั้นดีเยี่ยม 1,000 คน โดยผู้ต้องขังจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดด้วย ATK ทั้งก่อนออกมาและก่อนกลับเข้าไป และได้รับวัคซีนครบโดสแล้วทุกคน และต้องสมัครใจออกมาทำงานลอกท่อ ซึ่งผู้ต้องขังจะได้รับค่าจ้างร้อยละ 70 เพื่อเก็บออม และเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสังคม โดยจะได้รับสิทธิทุกอย่างอย่างเท่าเทียมกันทุกประการ รวมทั้งจะได้รับประโยชน์ลดวันต้องโทษ 1 วัน เมื่อออกมาทำงานลอกท่อ 1 วัน ด้วย