คุณตาโวย เดือดร้อนไม่มีเงินจ่าย ค่าประปาพุ่งไม่รู้สาเหตุ โอดคนแก่เต็มบ้าน หวั่นถูกตัดน้ำ ไม่มีใช้

คุณตาโวย เดือดร้อนค่าประปาพุ่ง ไม่รู้สาเหตุ เรียกตรวจสอบโดนครั้งละ 200 บาท คนแก่-คนพิการ เต็มบ้าน หวั่นถูกตัดน้ำ ไม่มีใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพเศรษฐกิจแย่ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าต่างๆ พุ่งสูงขึ้น กระทบไปทุกคน เกิดความเดือดร้อน ในระบบสาธารณูปโภคต่างๆ มีผู้เดือดร้อนจากราคาการใช้น้ำประปากระโดดจาก 800 กว่าบาทขึ้น 2,300 กว่าบาท โดยไม่ทราบสาเหตุร้องให้มาตรวจสอบเสียครั้งละ 200 กว่าบาทแต่ยังมีปริมาณการใช้น้ำ ที่ไม่ลดลงจากมิเตอร์การประปา เร่งให้เจ้าหน้าที่ประปาเข้ามาตรวจสอบเป็นการด่วน ตอนนี้ไม่มีเงินมาจ่ายค่าน้ำแล้ว กลัวโดนตัดน้ำที่บ้านมีคนแก่และติดเตียงหลายคน วอนช่วยเหลือ

นายสว่างและนางเรณู อภัย ผู้เดือดร้อนจากราคาน้ำประปาที่สูงปี๊ด อยู่ที่ ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย (เขตเทศบาลเมืองเลย) กล่าวว่า น้ำประปาของตนอยู่บริเวณสายสุดท้ายของท่อน้ำประปาในเขตเทศบาล ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย ใช้มาแล้วหลายปี แต่ในช่วงสามถึงสี่เดือนที่ผ่านมาราคาน้ำประปานั้นกระโดดขึ้นมาเป็นอย่างมากจากราคา 800 กว่าบาทขึ้นมา 900 กว่าบาท จาก 900 กว่าบาทขึ้นมา 1,900 กว่าบาท แล้วจากนั้นจะโดดมาเป็น 2,369 บาท ซึ่งราคาต่างๆ ขึ้นมายังไม่ทราบสาเหตุ

หลังจากนั้นประมาณหนึ่งเดือนตนก็ได้มีการตรวจสอบตัวเอง โดยการตัดท่อน้ำพื้นที่ใต้ดินหมดนำมาใช้เป็นท่อด้านบน กลัวรั่ว แต่ผ่านไปหนึ่งเดือนระดับการใช้น้ำก็ยังมากกว่าเดิมเป็นจำนวนมาก ยอดการใช้น้ำพุ่งสูงมาก โดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้ตนลำบากมากเนื่องจากคนที่บ้านมีผู้สูงอายุเป็นส่วนมาก เด็กและคนไข้ติดเตียงกลัวว่าจะโดนตัดน้ำหากไม่ไปจ่ายเพราะไม่มีเงิน เพราะว่าขนาดนี้เงินมีไม่พอ ที่จะนำมาจ่ายค่าน้ำประปา ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจแบบนี้และเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตนขอให้หน่วยงานประปาเข้ามาตรวจสอบเพื่อความถูกต้องและให้การช่วยเหลือ ปรับลด เพื่อความเหมาะสมและหาสาเหตุการที่ราคาน้ำประปา กระโดดขึ้นสูงมากขนาดนี้

นางสาวธารทิพย์ นนทรี หลานสาวกล่าวว่า หากไปติดต่อเจ้าหน้าที่ประปา เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบระบบน้ำของการประปานั้น หากเจ้าหน้าที่ (ไม่รู้เจ้าหน้าประปาโดยตรงหรือเอกชนรับจ้าง) เมื่อเดินทางมาตรวจสอบมิเตอร์ หากสภาพปกติจะต้องมีค่าใช้จ่ายค่าออกมาตรวจสอบ เกือบ 300 บาท และหากมีความพกพร่องของประปาจะไม่ถูกคิดค่าดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นการบริการของรัฐที่มีให้กับประชาชน ที่ผ่านมาตนให้มาตรวจสอบ โดยทำแบบนี้มา 2-3 รอบที่ต้องจ่ายไปเงินไป

ทั้งนี้ บ้านหลังดังกล่าวมีผู้อาศัยอยู่ทั้งหมด 7 คน โดยมี คนแก่ผู้สูงอายุ 3 คน เด็ก 2 คน ผู้ใหญ่ 1 คน คนพิการติดเตียง 1 รวม 7 คน อายุตั้งแต่ เด็ก ย่าทวดคนไข้ติดเตียง 95 ปี และผู้สูงอายุ 69-76 ปี