ญาติร้อง "ทนายตั้ม" รพ.ผ่าตัดพ่อ คืนกะโหลกศีรษะใส่ถุงพลาสติก ให้ไปแช่แข็งตู้เย็นที่บ้านเอง

นางภัทร์สุดา ธรรมวาจารย์ หรือดรีม เดินทางมาปรึกษาสำนักงาน Sittra Law Firm โดยคุณดรีมได้เข้ามาปรึษาทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด กรณีนายอดุลย์ อายุ 52 ปี หรือคุณพ่อ ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มทั้งที่ยังใส่หมวกกันน็อก ในวันที่ 21 ก.พ. 65 หมดสติ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ต้องนำตัวเข้ารักษาฉุกเฉินในห้อง ICU เบื้องต้นทางโรงพยาบาลแจ้งว่า คุณพ่อมีอาการเลือดคั่งในสมอง ทางโรงพยาบาลต้องทำการรักษาโดยการผ่ากะโหลกของคุณพ่อ จึงให้ญาติเซ็นเอกสารการรักษา

ต่อมาเวลาสองทุ่ม ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าคุณพ่อพ้นขีดอันตรายแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ให้ญาตินำส่วนกะโหลกศีรษะของคุณพ่อกลับไปแช่ตู้เย็นที่บ้าน หากคุณหมอต้องการนำมาใช้ จะโทรแจ้งให้ญาตินำมา คุณดรีมซึ่งเป็นลูกสาวจึงตัดสินใจนำกะโหลกศีรษะของคุณพ่อใส่ถุงพลาสติกมัดหนังยางมาแช่เย็นที่บ้านตามที่ทางโรงพยาบาลสั่ง โดยนำมาแช่ช่องฟรีซที่บ้าน ซึ่งรวมกับอาหารอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่มีการแนะนำใด ๆ เลย

ทางญาติจึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงต้องนำกะโหลกศีรษะกลับมา โรงพยาบาลไม่มีมาตรการดูแลชิ้นส่วนอวัยวะของคนไข้หรือ ซึ่งคุณดรีมได้นำมาแช่ไว้ที่บ้าน 1 วันกับ 3 ชั่วโมง ต่อมาในวันที่ 23 ก.พ. 65 ตอนตี 3 นายอภิชิต หรือนายเบิ้ล ซึ่งเป็นสามีตนเอง รู้สึกไม่สบายใจ จึงกลับไปที่โรงพยาบาลและไปสอบถามเจ้าหน้าที่หน้าห้อง ICU เกี่ยวกับมาตรการโรงพยาบาลว่า ทำไมถึงต้องให้ญาตินำกะโหลกกลับมาแช่เย็น อีกทั้งไม่บอกอุณหภูมิในการแช่ บรรจุภัณฑ์ไม่แน่นหนา ดูแล้วไม่สบายใจ

ต่อมา วันที่ 24 ก.พ. 65 โรงพยาบาลแจ้งว่าคุณพ่ออาการไม่ดีขึ้น ให้ญาติรีบเดินทางมาที่โรงพยาบาล ผ่านไป 2 ชั่วโมง โรงพยาบาลแจ้งว่าคุณพ่อเสียชีวิตแล้ว สาเหตุที่ตนเองเดินทางมาปรึกษาทนายมีสองประเด็นที่ยังสงสัย คือ

ประเด็นแรก ต้องการเรียกร้องให้คลายข้อสงสัย การที่โรงพยาบาลให้กะโหลกศรีษะ ใส่ถุงแกง มัดหนังยาง ให้ญาติกลับมาแช่เย็นที่บ้าน และทางโรงพยาบาลไม่มีการชี้แจง หรือแจ้งญาติว่าสะดวกหรือไม่ หรือควรต้องควบคุมอุณหภูมิเท่าไหร่ เพราะขณะที่นำกะโหลกศีรษะของคุณพ่อกลับมาบ้าน ก็ไม่ได้ใส่กล่องหรือมีของอะไรที่ทำให้อุณหภูมิคงที่ใด ๆ และประเด็นที่สองเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตของคุณพ่อ