รวบสาวแสบ อ้างเป็นนักธุรกิจอสังหา เชิดเงินมัดจำเหยื่อร่วม 20 คน กว่า 5 ล้าน

ตำรวจเชียงใหม่ รวบสาวใหญ่ ปลอมเป็นนักธุรกิจอสังหาเชิดเงินมัดจำ เสียหายกว่า 5 ล้านบาท ผู้เสียหายกว่า 20 เตรียมรวมตัว หลังตั้งกลุ่ม “ล่าแม่มด” ตามตัว

ตำรวจชุดสืบภาค 5 รวบสาวใหญ่สุดแสบอ้างตัวเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซื้อขายบ้านและที่ดินในราคาที่ถูกกว่าทั่วไป หลอกเหยื่อวางเงินมัดจำก่อนเชิดหนีหายเข้ากลีบเมฆ มูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 5 ล้านบาท พบประวัติโชกโชนมีหมายจับคดีฉ้อโกงของศาลเชียงใหม่และศาลลำพูนติดตัวรวมกัน 9 หมาย และถูกแจ้งความอีก 14 คดี วันนี้กลุ่มผู้เสียหายเตรียมรวมตัวกันติดตามความคืบหน้าคดีที่ภาค 5

พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า โดยการอำนวยการของพลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการจับกุมนางสาวปัทมา ภู่พูนทรัพย์ หรืออ้อ อายุ 47 ปี ชาวตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฉ้อโกงในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน

โดยมีผู้เสียหายจำนวนมากที่แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหามีหมายจับคดีฉ้อโกงของศาลแขวงเชียงใหม่ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ และศาลจังหวัดลำพูน ตั้งแต่ช่วงปี2564 รวมกันทั้งสิ้น 9 หมาย และอยู่ระหว่างการหลบหนี โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีกลุ่มผู้เสียหายประมาณ 20 คน ที่ได้ตั้งกลุ่มไลน์ชื่อ “ล่าแม่มด” ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีที่โดนนางปัทมา หลอกลวงเอาทรัพย์สินไป รวมประมาณ 5 ล้านกว่าบาท ได้รวมกลุ่มกันเข้ามาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมที่กองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวนางปัทมา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า พฤติการณ์ของนางปัทมา จะมีการอ้างว่าเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ซื้อขาย ที่ดิน บ้าน ในราคาที่ถูกกว่าคนทั่วไป โดยเรียกค่ามัดจำก่อน แล้วเชิดหนีหายไป

นอกจากนี้พบว่าด้วยนางปัทมา มีความชำนาญมีจิตวิทยา ความสามารถในการโน้มน้าวหลอกล่อ ในด้านมิจฉาชีพที่หาตัวจับยากมาก สามารถลอยนวลอยู่ในวงการมิจฉาชีพอยู่นานหลายปี โดยมีความเชี่ยวชาญในการหลบซ่อนจากตำรวจเป็นอย่างมาก มีหมายจับในคดีฉ้อโกง รวม 9 หมายและในคดีที่ร้องทุกข์อีกประมาณ 14 คดี ที่ยังไม่มีการออกหมายจับ เป็นที่ต้องการตัวเป็นอย่างมากของตำรวจเกือบทุกโรงพัก

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 เม.ย.65 สืบทราบวานางปัทมา ได้ไปหลบซ่อนอยู่บริเวณโซนหอพักย่านนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ซึ่งมีหอพักเป็นจำนวนมาก ยากแก่การจับกุม จึงได้ขอความร่วมมือไปยังกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 นำรถโมบายเคลื่อนที่ออกค้นหาที่อยู่ของนางปัทมา จนกระทั่งพบว่าหลบซ่อนอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จึงได้เข้าจับกุมตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยในวันนี้มีรายงานว่ากลุ่มผู้เสียหายมากกว่า 10 คดี นัดรวมตัวกันที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อทวงถามความคืบหน้า และติดตามคดีหลังจากที่ทราบมาว่าทางตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว