สลด ตาวัย 78 ติดโควิด ดิ่งชั้น 5 รพ.ดับ ญาติคาใจ ดูแลผู้ป่วยสะเพร่าหรือไม่

ลูกหลานร้องสื่อ หลังตาวัย 78 ปี ติดโควิด-19 และต้องเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จ.สระแก้ว แต่หลังจากเข้ากระบวนรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว ผ่านไปเพียงไม่ทันข้ามคืน ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์กลับแจ้งกับครอบครัวว่า คุณตากระโดดตึก 5 ชั้น ตกลงมาเสียชีวิต เบื้องต้นทางครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ขณะที่ทางโรงพยาบาลเร่งตั้งกรรมการขึ้นสอบสวนสาเหตุแล้ว พร้อมเยียวยา 400,000 บาท และช่วยเงินค่าปลงศพในเบื้องต้นแล้ว 20,000 บาท



กลุ่มชาวบ้านซำบอน หมู่ 15 ตำบลโคกปี่ฆ้อง อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว ร่วมพิธีฌาปนกิจศพนายแสวง คอมเหลา อายุ 78 ปี ภายในวัดโคกนกขุนทองตามกระบวนการฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากการติดโควิด-19 แต่การเสียชีวิตของนายแสวงนั้น กลับสร้างความสงสัยให้กับบรรดาญาตพี่น้อง เพราะเป็นการเสียชีวิตที่ไม่ปกติจากการติดเชื้อ แต่เป็นการเสียชีวิตจากการกระโดดตึก 5 ชั้น ลงมาเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (31 มี.ค.)



นายมานพ โชติชื่น ลูกเขยผู้ตาย เล่าว่า เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายแสวง ติดเชื้อโควิด-19 จากลูกสาวที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ก่อนที่ทีมแพทย์จากอนามัยใกล้บ้านจะตรวจซ้ำและยืนยันผลตรวจว่า นายแสวงและภรรยาติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นนายแสวงพร้อมภรรยา ได้เดินทางเข้าสู่กระบวนการรักษาตัว เมื่อวันพุธที่ 30 มี.ค.(วานนี้)



โดยตัวนายแสวงเอง รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ส่วนภรรยานายแสวงถูกส่งไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม อบจ. จนกระทั่งเมื่อช่วงตี 4 เช้ามืดวันนี้ 31 มี.ค. ทางโรงพยาบาลได้โทรศัพท์แจ้งครอบครัวไปว่า นายแสวง กระโดดตึกลงมาเสียชีวิต จึงทำให้ญาติพี่น้อง ยังรู้สึกสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิต เพราะถึงแม้ลุงแสวงจะมีอายุมากแล้ว ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยจะได้ ก็ไม่น่าจะคิดสั้นกระโดดตึก 5 ชั้น ตกลงมาเสียชีวิต



ส่วนนางน้อย คล้องอ่าง หลานสาวผู้ตาย ยอมรับว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องความผิดพลาดของโรงพยาบาลที่ไม่ดูแลคนไข้ เมื่อสอบถามทีมเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลว่า ทำไมไม่ปิดประตูห้องด้านหลัง โรงพยาบาลชี้แจงว่า เป็นการระบายอากาศสำหรับคนไข้ที่ติดเชื้อโควิด คำตอบส่วนนี้ ทำให้รู้สึกว่าเป็นการทำงานที่ผิดพลาดหรือไม่



อย่างไรก็ตาม แนวทางการพูดคุยกัน เบื้องต้นโรงพยาบาลจะมีเงินชดเชย 400,000 บาท และช่วยเงินค่าปลงศพในเบื้องต้น 20,000 บาท ในส่วนของเงิน 400,000 บาท ทางคณะกรรมการของโรงพยาบาลที่ตรวจสอบหาสาเหตุเรื่องนี้ จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในช่วงต้นเดือนหน้า แต่ทางครอบครัวผู้ตายจะได้รับเงินเยียวยาเต็มจำนวน 400,000 บาทหรือไม่นั้น ต้องรอคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุให้แน่ชัดเสียก่อน



ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายแพทย์สุรสิทธิ์ จิตรพิทักษ์เลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว พบว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหาสาเหตุเร่งด่วนแล้ว โดยยังไม่มีการระบุถึงสาเหตุที่แน่ชัด



ซึ่งคณะทำงานของโรงพยาบาล จะต้องตรวจสอบในทุกมิติ ทั้งดูจากภาพกล้องวงจรปิด พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่เข้าเวรในห้วงเวลานั้น รวมทั้งประเมินและวิเคราะห์อาการของผู้ตายในขณะได้รับเชื้อ เนื่องจากฐานข้อมูลระบุว่า ผู้ตายมีประวัติยังได้รับได้วัคซีนแม้แต่เข็มเดียว แต่ถึงอย่างไร ก็ยังมีเงินเยียวยา 400,000 บาทที่พร้อมจะช่วยเหลือจากภาครัฐ