สังคม

จนท. ถวายเงินคืนวัดห้วยด้วน หลังยึดจากกลุ่มไวยาจักร จำนวน 63 ล้านบาท

โดย nicharee_m

23 พ.ย. 2564

445 views

ตำรวจได้ส่งมอบเงินจำนวน 63 ล้านที่ได้จากการยึดจากกลุ่มไวยาจักรที่ทำการยักยอก คืนแก่วัดห้วยด้วน


วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ วัดห้วยด้วน (ธารทหาร) อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.ร่วมเป็นสักขีพยานการรับมอบถวายเงินคืนแด่พระราชมงคลวัชราจารย์ (พัฒน์ปญุ ญกาโม) หรือ หลวงพ่อพัฒน์ ปญฺญกาโม เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน จํานวน 63,034,470 บาท หลังก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบว่ากลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน มีการยักย้ายถ่ายเทเงินของวัดเข้าบัญชีส่วนตัว จนเกิดเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับพฤติกรรมบริหารจัดการเงินวัดที่ไม่โปร่งใส


สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ กรณีได้มีหนังสือร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของกลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน (ธารทหาร) อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ และคนใกล้ชิดพระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อพัฒน์ ปญฺญกาโม เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ได้มีกลุ่มลูกศิษย์ของหลวงพ่อพัฒน์ฯ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ว่า


กลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน และ คนใกล้ชิดซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัดและมีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า ทุจริตยักยอกเงินของวัดห้วยด้วน และมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจนิมนต์และการดูแลสุขภาพของหลวงพ่อพัฒน์ฯ ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี พร้อมขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินผู้ใกล้ชิดของหลวงพ่อพัฒน์ฯ


โดยได้มีการลงพื้นที่ทำการสืบสวนสอบสวน พบว่าหลวงพ่อพัฒน์ฯ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีความเมตตาสูง จนทำให้มีประชนชนและลูกศิษย์ เลื่อมใส ศรัทธา เคารพนับถือจำนวนมาก จึงทำให้มีผู้มาขอให้หลวงพ่อพัฒน์ฯ ปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ และถวายเงินแด่หลวงพ่อพัฒน์ฯ เป็นเงินปีละกว่าร้อยล้านบาท หลวงพ่อจะนำเงินที่ได้รับถวายใช้ในการทำนุบำรุงศาสนาและให้หน่วยงานที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ เพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น วัด โรงพยาบาล และโรงเรียนต่างๆ จำนวนมาก โดยไม่ได้นำเงินไปใช้ในทางส่วนตัว


นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบกลุ่มไวยาวัจกรและคนใกล้ชิดหลวงพ่อพัฒน์ฯ คือ นายเสนาะฯ, นางชัญญาฯ และนางบุญเชิดฯ ทั้ง 3 ราย ประกอบอาชีพเกษตรกร ไม่ได้ประกอบอาชีพที่มีรายได้สูง พบว่ามีการนำเงินไปเข้าบัญชีในชื่อตนเอง จำนวน 7 บัญชี รวมเป็นเงิน 63,034,470 บาท เชื่อว่าเป็นเงินของหลวงพ่อพัฒน์ฯ จึงได้อายัติเงินในบัญชีดังกล่าวไว้ และเข้าตรวจสอบภายในวัดห้วยด้วน พร้อมได้ตรวจยึดเอกสารและหลักฐานต่างๆ นำมาตรวจสอบ


สอบถามหลวงพ่อพัฒน์ฯ ได้ความว่าเงินที่ได้รับการถวาย หลวงพ่อพัฒน์ฯ จะให้กลุ่มไวยาวัจกรและคนใกล้ชิดนำเงินไปฝากในบัญชีส่วนตัวเพื่อสะดวกในการเบิกเงินมาใช้ในการสร้างเจดีย์กลางน้ำและสาธารณประโยชน์ ซึ่งจำได้ว่ามอบเงินให้ไปฝากประมาณ 28 ล้านบาท เท่านั้น และเมื่อถึงกำหนดการจ่ายค่างวดก่อสร้างเจดีย์กลางน้ำ หลวงพ่อพัฒน์ฯ ได้ให้นายเสนาะฯ ไปถอนเงิน จำนวน 15 ล้านบาท เพื่อมาจ่ายให้กับผู้รับเหมา แต่นายเสนาะฯ ไม่ยอมถอนเงินมาให้ทำให้หลวงพ่อพัฒน์ฯ ต้องหาเงินจากส่วนอื่นมาจ่ายค่าก่อสร้างเจดีย์กลางน้ำแทน


จากการสืบสวนเบื้องต้นไวยาวัจกรทั้ง 3 ราย รับว่าเงินจำนวน 63 ล้านบาท เป็นเงินของหลวงพ่อพัฒน์ฯ และยินยอมทำบันทึกสมัครใจถอนเงินจำนวนดังกล่าวมาถวายคืนแด่หลวงพ่อพัฒน์ฯ ส่วนเงินในบัญชีธนาคารของนายเสนาะฯ จำนวน 1 บัญชี เป็นเงิน 7.9 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้อายัติไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป


ทั้งนี้ การกระทำของไวยาวัจกรวัดห้วยด้วน (ธารทหาร) ทั้ง 3 ราย ที่เป็นเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 45 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ซึ่งพนักงานสอบสวนของ บก.ปปป. ได้แสวงหาข้อเท็จจริง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นไว้แล้วนั้น พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ต้องส่งสำนวนการสอบสวนดังกล่าวให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ เพื่อไต่สวนและวินิจฉัยว่ามีการกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือไม่ ตามมาตรา 61 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561

คุณอาจสนใจ

Related News