สังคม

โอละพ่อ! หนุ่มร้องถูกแทง ที่แท้ขโมยแท็บเล็ตพ่อ จับมือญาติกุเรื่องทวงเงิน แต่อีกฝ่ายฉุนลูกน้องถูกตบ จึงแทงยับ

โดย passamon_a

18 พ.ค. 2564

492 views

โอละพ่อ! หนุ่มร้องสื่อ ช่วยตามคดีถูกคนร้ายบุกแทงถึงที่ เย็บกว่า 100 เข็ม ที่แท้ขโมยแท็บเล็ตพ่อ จับมือญาติสร้างเรื่องทวงเงิน แต่อีกฝ่ายฉุนลูกน้องถูกตบ จึงแทงยับ


นายพงษ์พสิน สงวนทรัพย์ อายุ 32 ปี เ​จ้าของธุรกิจตลาดไนท์มาเก็ต ย่านตลิ่งชัน ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนไปยังตำรวจ ให้เร่งติดตามตัวคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 16 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ขณะนั่งทำงานอยู่ในที่ออฟฟิศพร้อมกับภรรยา มาดำเนินคดี เนื่องจากคนร้ายเป็นผู้มีอิทธิพลและก่อเหตุอย่างอุกอาจ จึงรู้สึกหวาดกลัว เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม


นายพงษ์พสิน เล่าว่า วันดังกล่าวขณะที่ตนเองทำงานอยู่ในตลาด ได้มีอดีตลูกน้องเก่าซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ เข้ามาทำทีทวงถามเรื่องค่าซื้อขายแท็บเล็ต แต่ไม่สามารถเจรจากับตนเองได้ หลังจากนั้นได้มีเพื่อนของผู้ก่อเหตุอีก 2 คน เข้ามาที่เกิดเหตุและก่อกวน จากนั้นได้มีปากเสียง ก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธมีดแทงตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส


ถูกแทงบริเวณหน้าอกซ้าย 1 แผล หัวเข่าซ้าย 1 แผล และข้อศอกด้านซ้าย รวม 3 ที่ เย็บกว่า 100 เข็ม ก่อนคนร้ายจะแยกย้ายกันหลบหนี หลังเกิดเหตุตนและครอบครัวได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี โดยมีพยานหลักฐานมอบให้ตำรวจชัดเจน แต่หลังจากนั้นก็ทราบว่าฝ่ายผู้ก่อเหตุมีความพยายาม​จะขอไกล่เกลี่ยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อแลกกับไม่ต้องถูกดำเนินดคี แต่ตนเองยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ทั้งนี้ ล่าสุด ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน คือ นายกิตติพัฒน์ ชัยยะสิทธิกุล หรือ เจมส์, นายพันธุ์ศักดิ์ วงษ์ถาวร หรือ กิ๊ก ซึ่งป็นญาติกับพ่อของผู้เสียหายและเป็นลูกน้องเก่า และ นายบี (นามสมมติ)​ เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน แล้ว และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาล


ร.ต.อ.ดนกอหนิ ทิ้งหลง รองสารวัตรสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เปิดเผยว่า รูปคดีตำรวจได้แยกเป็น 2 ส่วน คือ คดีที่นายพงษ์พสิน ถูกทำร้ายร่างกายและบุกรุกในเวลากลางคืน ส่วนอีกคดี เป็นคดีที่นายพงษ์พสิน ถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นลหุโทษที่ฝ่ายผู้ก่อเหตุเป็นฝ่ายแจ้งความดำเนินคดีกับนายพงษ์พสิน


โดยตำรวจยืนยันว่าไม่หนักใจในการดำเนินคดี เพราะผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกคน พร้อมกันนี้พนักงานสอบสวนยังแจ้งสิทธิ์ให้ผู้เสียหายทราบว่า ในคดีอาญาสามารถเรียกร้องสิทธิ์ค่าเสียหายกับผู้ต้องหาได้ และทำหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงยุติธรรมว่าผู้เสียหายคดีนี้ควรได้รับการเยียวยาด้วยเช่นกัน


ร ต.อ.ดนกอหนิ กล่าวอีกว่า คดีนี้ สืบเนื่องจากนายพงษ์พสิน ได้ไปขโมยแท็บเล็ตของพ่อตนเอง จากนั้นก็มาหารือกับนายกิ๊ก ว่าให้ช่วยหาทางออกว่าจะนำแท็บเล็ตมาคืนพ่อได้ยังไง เนื่องจากพ่อไม่ทราบว่าใครเป็นคนขโมยไป จึงทำทีให้นายกิ๊ก มาทวงหนี้นายพงษ์พสิน เพื่อเอาเงินไปจ่ายดอกเบี้ยที่เอาไปจำนำไว้ แต่ระหว่างที่ทวงเงิน นายพงษ์พสิน ได้ทำร้ายด้วยการตบลูกน้องของนายกิ๊กที่มาด้วยกัน ทำให้นายกิ๊ก ไม่พอใจและลงมือทำร้ายนายพงษ์พสิน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว


หลังเกิดเหตุ แม่ของนายกิ๊ก ที่อ้างตัวว่าเป็นน้องสาวของพ่อของนายพงษ์พสิน ได้เข้ามาเจรจาถึง 2 ครั้ง แต่ทางครอบครัวผู้เสียหายไม่ยอมเจรจา โดยอ้างว่าตัดญาติกัน ดังนั้นตำรวจจึงไม่หนักใจในการดำเนินคดีแต่อย่างใด เพราะไม่ใช่เรื่องซับซ้อน และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย



คุณอาจสนใจ

Related News