ชาวบ้านจะนะร้อง ถือครองเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 มากว่า 67 ปี ยังไม่ได้โฉนดที่ดิน

ชาวบ้านหว้าหลัง ตำบลนาหว้า อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ร้องเรียนผ่านพรรคเป็นธรรม ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถือครองเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ค.1 มากว่า 67 ปี ยังไม่ได้รับการออกโฉนดที่ดิน ทั้งๆที่มีประวัติศาสตร์ชุมชนทำกินมากว่า 200 ปี แต่กระบวนการออกเอกสารสิทธิโดยรัฐล่าช้า จนห่วงว่าจะเสียสิทธิ เพราะปัจจุบันมีการมาอ้างสิทธิโดยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเหรง ไม่ให้ชาวบ้านทำการปลูกยางได้อีก จากที่เคยทำมากว่า 30 ปีแล้ว



นายประเสริฐ เสนาจิตร ผู้ใหญ่บ้านหว้าหลัง หมู่ที่ 10 ตำบลนาหว้า อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา แสดงเอกสารสิทธิถือครองที่ดิน ส.ค.1 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2498 แต่ยังไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้ ซึ่งชาวบ้านหว้ากลัง 116 ครัวเรือนต่างประสปปัญหานี้มายาวนานถึง 67 ปีแล้ว และในจำนวนตัวแทนชาวบ้านกว่า 30 คนที่มาร่วมประชุมให้ข้อเท็จจริงกับพรรคเป็นธรรม ที่ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้าน



โดยนายกัณวีร์ สืบแสง ประธานยุทธศาสตร์และรองหัวหน้าพรรคเป็นธรรม ได้ลงพื้นที่ติดตามกรณีเพราะสงสัยว่าทำไมชาวบ้านหว้าหลัง รวมถึงชาวบ้านในตำบลนาหว้า ซึ่งนายประทีปไชยยอด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาหว้า บอกว่า ชาวบ้านเกือบทั้งตำบล มีเอกสาร ส.ค.1 ก็ยังไม่มีการออกโฉนดให้จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของกรมที่ดินเพื่อขอออกโฉนดมาแล้วหลายครั้งเป็นเวลากว่า 30 ปี



ขณะที่นายจรูญ สังข์ทอง ชาวบ้านนาหว้า เปิดเผยว่า ส.ค.1 ที่ถือครองอยู่ ออกมาตั้งแต่ตนเองอายุ 2 ขวบ จนปัจจุบันอายุ 69 ปี นอกจากหลักฐานทางราชการจากการขอทุนกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางมาตั้งแต่รุ่นพ่อ เป็นเวลากว่า 34 ปีแล้ว ยังมีหลักฐานประวัติศาสตร์ชุมชนทั้งหลักหมุดหลวงพินิจภูวดล มีการสลักชื่อ นายสาย ณ บ้านเมือง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 โดยให้ชาวบ้านหว้าหลังเป็นคนขนทรายขึ้นไปก่อหลักหมุดด้วย รวมถึงต้นทุเรียน ต้นยาง อายุกว่า 100 ปีที่ชาวบ้านทำกิน ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า ชาวบ้านอาศัยอยู่และทำกินในพื้นที่นี้มากว่า 200 ปี ก่อนที่จะมีการประกาศเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในปี 2530