สังคม

เร่งค้นหากำลังพลสูญหายจากเรือหลวงสุโขทัยล่ม พร้อมสอบปมเหตุอับปาง-ชูชีพไม่พอ

โดย panwilai_c

19 ธ.ค. 2565

75 views

จับตาปฏิบัติการช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือ 31 นาย ที่ถูกคลื่นลมทะเลซัดกระจัดกระจายออกไป จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางลงเมื่อราวเที่ยงคืนที่ผ่านมา ตอนนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ยืนยันว่า ภารกิจเร่งด่วนคือการเร่งติดตามหาทหารทั้ง 31 นาย และย้ำว่ายังไม่พบมีผู้ใดเสียชีวิต อย่างไรก็ตามยอมรับว่า บนเรือมีเสื้อชูชีพไม่ครบทุกคน เพราะมีการขอกำลังเพิ่ม แต่ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ก็ยืนยันว่าก่อนเรือจะอับปาง ได้นำเสื้อชูชีพให้ทุกนายสวมทั้งหมดแล้ว



จนถึงขณะนี้กำลังพลของเรือหลวงสุโขทัย ลำที่อับปางลงเมื่อคืน ยังคงสูญหาย 31 นาย จากทั้งหมด 106 นาย โดยกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาแล้วมีทั้งหมด 75 นาย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบางสะพาน โดยมี 5 ราย ที่บาดเจ็บหนัก แต่ก็อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้ว



ขณะเดียวกัน ก็มีการยืนยันว่า กรณีที่พบว่ามีผู้ลอยคออยู่ในทะเล 10 คน และได้รับการช่วยเหลือขึ้นเรือนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่กำลังพลของกองทัพเรือจากเรือหลวงสุโขทัย แต่เป็นลูกเรือของเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชื่ออนุภูมิ ที่เสียการทรงตัวเมื่อวานนี้ โดยมีรายงานว่ามีลูกเรือ 1 คน ของกลุ่มนี้เสียชีวิตด้วย



วันนี้กำลังพลที่รอดชีวิตและได้รับการช่วยเหลือมาที่ศูนย์พักพิง อบต.แม่รำพึง โดยมีบางคน ระบุว่าระหว่างเกิดเหตุ มีเสื้อชูชีพไม่เพียงพอสำหรับทุกคน รวมถึงเพื่อนของเขาที่จมน้ำไปต่อหน้าระหว่างที่เรือจม ก็ไม่มีเสื้อชูชีพ



พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยระหว่างไปเยี่ยมกำลังพล ซึ่งได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาที่ศูนย์พักพิง ว่าภารกิจเร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือการค้นหาผู้สูญหายทั้ง 31 นาย โดยใช้เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงภูมิพลมาสมทบ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ มาสนับสนุนภารกิจ



โปรแกรมคำนวณคลื่นลม คาดว่าจะพัดผู้ประสบภัยเข้าหาฝั่ง ตั้งแต่ตอนใต้ของอำเภอบางสะพานลงไป อย่างไรก็ตาม นับเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องแข่งกับเวลา เพราะวันน็และพรุ่งนี้ จะยังมีคลื่นลมแรงต่อเนื่อง



ผู้บัญชาทหารทหารเรือยอมรับว่า เสื้อชูชีพบนเรือลำดังกล่าว มีไม่เพียงพอกับจำนวนคนบนเรือในวันเกิดเหตุ ซึ่งปกติแล้วจะมีเพียงพอ แต่เนื่องจากมีการขอกำลังเสริมนาวิกโยธิน และศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาชายฝั่ง อีก 30 นาย ทำให้จำนวนคนมากกว่าเสื้อชูชีพ ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุว่าจำเป็นต้องตรวจสอบว่าเหตุใดไม่เอาเสื้อชูชีพไปเพิ่ม รวมถึงตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยจมลง



อย่างไรก็ตาม ด้านผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ยืนยันว่า ก่อนที่เรือหลวงสุโขทัยจะจมลง เรือหลวงกระบุรีที่ไปช่วยเหลือ ได้นำเสื้อชูชีพที่มี ส่งให้กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย โดยระบุว่าผู้ที่ลอยอยู่ในทะเล มีเสื้อชูชีพทุกนาย



นอกจากปัญหา คลื่นลมแรงอย่างหนัก ในพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไปแล้ว ในพื้นที่ภาคใต้ ยังประสบกับปัญหาฝนตกหนัก จนเกิดน้ำท่วม ซึ่งยังมีพื้นที่วิกฤติหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่าง ที่จังหวัดสงขลา ซึ่งมีน้ำท่วมฉับพลันที่อำเภอเมืองสงขลา และอีก 7 อำเภอที่กำลังเผชิญวิกฤติจากฝนตกหนัก คืออำเภอรัตภูมิ /ควนเนียง/หาดใหญ่/นาหม่อม/ จะนะ/บางกล่ำ/และอำเภอระโนด ตอนนี้จังหวัดกระจายเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือ



ที่จังหวัดยะลา ยังมีพื้นที่เผชิญดินถล่ม ที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา และบางพื้นที่ของอำเภอธารโต ตอนนี้อยู่ระหว่างเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม



ที่จังหวัดนราธิวาส หนักที่สุดตอนนี้อยู่ที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก เพราะน้ำจากแม่น้ำโกลก เพิ่มระดับสูงขึ้นฉับพลันและไหลเชี่ยว ทำให้พนังกั้นน้ำริมตลาดมูโน๊ะทรุด และน้ำหลากท่วมฉับพลัน



สำหรับที่สตูล น้ำท่วมได้ขยายออกเป็น 4 อำเภอแล้ว คือละงู / ควนโดน / ท่าแพ และอำเภอเมือง นอกจากนี้เทศบาลตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล ได้เตือนให้ชุมชนในพื้นที่เตรียมรับมือและขนทรัพย์สินขึ้นที่สูง เพราะยังมีความเสี่ยงที่น้ำจะไหลเข้าท่วม

คุณอาจสนใจ

Related News