'บิ๊กโจ๊ก' จ่อเอาผิดจนท.รัฐ เอี่ยวคดีจีนเทา ยันยังไม่พบหลักฐานโยงนักการเมือง

คดีกลุ่มจีนสีเทา แม้จะอยู่ในช่วงสรุปสำนวน ปิดคดีให้เสร็จสิ้นในเวลาอีก ประมาณ 2 สัปดาห์ที่เหลือ แต่ดูเหมือนว่า ข้อมูลในคดี ยังถูกเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง วันนี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลนอมินีของนายตู้ห่าว ที่ใช้หญิงไทยโอนเงินซื้อที่ดินกว่า 400 ล้านบาท ขณะที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สรุปข้อมูลที่ได้ยึดทรัพย์เฉพาะของนายตู้ห่าว ไปแล้วกว่า 5 พันล้านบาท จับนายทุนใหญ่ได้ 4 คน และเตรียมเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนที่มีข่าวเชื่อมโยงกับนักการเมือง ยืนยันยังไม่พบหลักฐาน


พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึด อายัดทรัพย์สินเฉพาะของนายตู้ห่าวคนเดียวได้กว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมเครือข่ายอื่นๆ เช่น นางสาว พัชรินทร์ เจ้าของร้านเครื่องครัว และนายหลินหลง มือขวาของตู้ห่าว ซึ่งตำรวจจะออกหมายเรียกให้มาชี้แจงที่มาของทรัพย์ต่อไป โดยยืนยันว่าทั้งคู่ยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศไทย



สำหรับบุคคลที่เป็นนอมินี ให้การช่วยเหลือถือครองทรัพย์สินแทนกลุ่มทุนจีน พบว่าส่วนใหญ่เป็นคนจีนที่สวมบัตรประชาชนคนไทย โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะนี้จับผู้ต้องหาเครือข่ายชาวจีนเทาได้แล้ว 102 คน หลังจากนี้จะขยายผลเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ส่วนการเชื่อมโยงไปยังนักการเมือง ณ วันนี้ ยังไม่พบหลักฐาน



ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หลังจากยื่นซองเอกสารข้อมูลเส้นทางการเงินนอมินี และเครือข่ายตู้ห่าวให้กับรอง ผบ.ตร.แล้ว ได้เปิดแถลงข่าวว่า มีคนไทยที่เคยทำงานกับนายตู้ห่าวให้ข้อมูลมาทั้งหมด เพราะนายตู้ห่าวไม่ยอมให้เงินค่าจ้างในงานที่ทำด้วยกัน จึงเกิดเป็นความขัดแย้งพร้อมยืนยันว่าไม่ได้รับงานหรือรู้เห็นกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์



นายชูวิทย์ เปิดเผยข้อมูลของนอมินีคนสำคัญของนายตู้ห่าว คือ นางสาวพัชรี โดยดึงข้อมูลใน iCloud ซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวมาตรวจสอบ พบว่ามีสัญญาระหว่างนายตู้ห่าวกับนางสาวพัชรินทร์ รายการซื้อขายและคุ้มครองที่ดินแทนมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2563



นาย ชูวิทย์ ยังระบุว่า มีข้อมูลว่านายทุนจีนเหล่านี้ ได้ซื้อโรงเรียนสอนภาษาไทยให้คนจีนอยู่ และรับรองการอยู่ในไทยในฐานะนักศึกษา ทำให้ไปต่อวีซ่าได้ตลอด นายชูวิทย์ได้เปิดเผยภาพถ่ายการก่อสร้างบ้านขนาดใหญ่กลางหุบเขา ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ โดยระบุว่า กลุ่มจีนเทาใช้เงินจากหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดของต่างประเทศ อ้างว่านำมาสนับสนุนหน่วยงานยาเสพติดของไทย แต่นำเงินไปสร้างบ้านกลางป่า