สังคม

เปิดโปงขบวนการสวมเลข 13 หลัก พบนายหน้าร่วม จนท.รัฐสวมบัตรประชาชนคนตายขายให้ต่างชาติ

โดย panisa_p

5 พ.ย. 2565

260 views

กรณีลักลอบพาคนต่างด้าว สวมเลข 13 หลัก แอบอ้างเป็นคนไทย เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ข่าว 3 มิติ ติดตาม-เปิดโปงพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา พบว่ามีคนหลายสัญชาติ พยายามแฝงตัวเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมาย โดยติดต่อผ่านขบวนการนายหน้า เสนอผลประโยชน์ จ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่ข่าว 3 มิติ จะถอดรหัสให้ท่านผู้ชมได้เห็นรูปแบบและวิธีการของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ใช้กันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน



หญิงชาวสระบุรีคนนี้ เธอเคยเปิดใจกับข่าว 3 มิติ เผยให้เห็นความผิดพลาดในอดีต ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเพื่อนและนายหน้าพูดจาหว่านล้อม อ้างจะให้เงิน 5 พันบาท หากรับชายคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้าน



นายอภิชาติ พิมพาลัย คือชื่อที่ขบวนการที่นายหน้าเอามาใช้แอบอ้าง ด้วยขณะนั้นกำลังเดือดร้อน แม้จะไม่เห็นหน้า แต่พอเห็นชื่อก็คิดว่าน่าจะเป็นคนไทย และคงจะไม่มีปัญหาอะไร จึงยอมให้เอาชื่อนี้มาใส่ไว้ในทะเบียนบ้าน กระทั่งถูกออกหมายเรียก และมาทราบในภายหลังว่า ชายที่ชื่อ-สกุลเหมือนคนไทย จริง ๆ แล้ว มีใบหน้าเหมือนคนจีน สื่อสารและพูดภาษาไทยไม่ชัด



ข่าว 3 มิติ ติดตามการขยายผลคดีนี้ จนพบข้อมูลว่า ชื่อของนายอภิชาติ พิมพาลัย ถูกย้ายเข้าทะเบียนบ้านกลางของอำเภอวังม่วง ตั้งแต่ปี 2550 และไม่เคลื่อนไหวมานานกว่า 10 ปี แต่แล้ววันหนึ่ง ในช่วงต้นปี 2563 กลับพบรายการแจ้งย้ายชื่อนายอภิชาติ ออกจากทะเบียนบ้านกลาง ไปอยู่ในทะเบียนบ้านหลังหนึ่งที่เขตคลองสาน กรุงเทพ ที่น่าสนใจก็คือ หลังจากย้ายมาคลองสานหนึ่งวัน วันถัดมาชื่อนี้ ถูกย้ายกลับไปที่สระบุรีอีกครั้งอย่างมีพิรุธ



วงจรปิดหน้าที่ว่าการอำเภอวังม่วง สระบุรี บันทึกพฤติกรรมบุคคลหน้าไม่ซ้ำ แอบย่องเข้าห้องทะเบียนในช่วงพักเที่ยง การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ส่วนการสอบสวนคดีอาญา กรมการปกครอง พบมีทั้งนายหน้าคนไทย เจ้าหน้าที่เทศบาลและแม่บ้าน ร่วมมือกันทุจริต แอบพาคนต่างด้าวเชื้อสายจีน ย่องเข้ามาถ่ายรูปทำบัตรประชาชน สวมเลข 13 หลักของบุคคลในทะเบียนบ้านกลาง คดีนี้มีหลายคนถูกออกหมายจับ ควบคุมตัวแล้วบางส่วน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐถูกไล่ออกและดำเนินคดีอาญา



ข่าว 3 มิติ พบข้อมูลว่า เจ้าของเลข 13 หลัก ตามชื่อนาม-สกุล ที่ขบวนการนี้เอาไปสวมให้ต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นชื่อของบุคคลสาบสูญ หรือเสียชีวิตไปนานแล้วแต่ญาติไม่ได้แจ้งตาย จึงเป็นช่องทางที่กลุ่มมิจฉาชีพ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐบางคน เอาไปสวมให้คนต่างด้าวแลกกับผลประโยชน์ คอยเปิดทางและทำธุรกรรมทางทะเบียนให้



นอกจากสระบุรี และอีกหลายจังหวัด เราพบว่าที่กรุงเทพ ก็มีบางสำนักงานเขตที่พบความผิดปกติในระบบทะเบียนราษฏร์ เช่นบ้านหลังนี้ ถูกตั้งข้อสงสัยว่า บ้านหลังเล็ก แต่มีชื่อคนอาศัยมากกว่า 10 คน ที่ผ่านมา พบการแจ้งย้ายเข้าย้ายออกบ่อยครั้ง ข้อสังเกตคือ แต่ละคนมีใบหน้าและลักษณะที่ไม่น่าจะเป็นเครือญาติกันได้ หลายคนดูเหมือนชาวจีน ขณะที่บางส่วนเหมือนคนอินเดีย



ข่าว 3 มิติ พบว่า วิธีการมีหลายรูปแบบ หลักคือต้องการเข้ามาทำธุรกิจ มีทั้งฟอกเงิน ฉ้อโกง ผับบาร์ ยาเสพติด และของผิดกฏหมาย จึงมีความจำเป็นต้องอาศัยบัตรประชนเพื่อใช้เดินทาง และง่ายต่อการทำธุรกรรมในประเทศ มีหลายเชื้อชาติ เช่น จีน อินเดีย ยุโรป และตะวันออกกลาง



ในอดีตมักจะลักลอบทำกันในพื้นที่ติดชายแดน หรือห่างไกล แต่พอยุคสมัยเปลี่ยน เทคโลโลยีเข้ามามีบทบาท การสวมบัตรของมิจฉาชีพ ต้องทำอย่างระวังมากขึ้น นายทะเบียนที่อนุมัติ ระบบจะแจ้งเตือนทันที สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ทั้งวัน เวลา และสถานที่ที่ผ่านมา มีหลายคนถูกไล่ออกจากราชการ ลงโทษทั้งวินัยและอาญา



แต่ด้วยอำนาจเงิน ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบางคน ยอมแลกกับความเสี่ยง เมื่อก่อนหลักหมื่น แต่ปัจจุบัน ตามรายงานการสืบสวนของกรมการปกครอง พบขั้นต่ำอยู่ที่หลักแสนขึ้นไป ขึ้นกับความยากง่าย บางกรณีพบว่าขยับสูงจนถึงหลักล้าน นายหน้ารับจากต้นทางแบ่งจ่ายกันเป็นทอด ๆ



การสวมบัตรประชาชน เป็นหนึ่งในภัยความมั่นคงของประเทศ เเต่ก็ยังคงพบความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ตั้งแต่เขตชายแดน มาถึงตัวเมืองชั้นใน

คุณอาจสนใจ

Related News