สังคม

รอง ผบ.ตร. ดำเนินคดีตำรวจ 3 นาย ฐานเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ต้องหาชาวจีนผับจินหลิง

โดย parichat_p

1 พ.ย. 2565

300 views

ความคืบหน้ากรณี นักท่องเที่ยว ชาวจีน 104 คน ถูกจับตรวจสารเสพติด จากการเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงจินหลิงผับ ล่าสุดพบว่ามีตำรวจ 3 นาย เป็นพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 2 นาย และรองผู้กำกับการ สน.ลาดพร้าว ถูกดำเนินคดี ฐานให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ทั้งเร่งส่งตัวผัดฟ้องต่อศาล และประสานปล่อยรถของกลางที่ยึดไว้ คืนให้ผู้ต้องหา


พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่ามีตำรวจ 3 นาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวจีน 104 คน และผู้ดูแลคนไทยอีก 1 คน ซึ่งถูกจับเพราะมั่วสุม ยาเสพติดในสถานบันเทิง จินหลิงผับ ท้องที่นครบาลยานนาวา เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากการกระทำดังกล่าว ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ ให้ผู้ต้องหา เพราะมีทั้งเรียกรับผลประโยชน์เพื่อเร่งให้การผัดฟ้องต่อศาล และได้รับประกันตัวในชั้นศาล รวมถึงประสานให้คืนรถยนต์ของกลางให้ผู้ต้องหา


ตำรวจทั้ง 3 นาย ที่ถูกดำเนินคดี ประกอบด้วยนายตำรวจยศพันตำรวจโท ตำแหน่งรองผู้กำกับการ สน.ลาดพร้าว ถูกดำเนินคดีข้อหาให้สินบนหรือประโยชน์อื่นใด แก่เจ้าพนักงานสอบสวน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำใด อันมิชอบด้วยหน้าที่ // ส่วนอีกสองนาย เป็นตำรวจยศพันตำรวจตรี 1 นาย และตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอก 1 นาย ทั้งสองเป็นพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนคบาลยานนาวา ถูกดำเนินคดีข้อหาเรียกรับสินบน หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับ ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบหรือโดยทุจริต


พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่า ปกติแล้วการส่งฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นชาวต่างชาติ เมื่อผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ต้องส่งตัวผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ให้ไปอยู่ในการควบคุม ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แต่กรณีนี้ พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งตัวไปให้ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง จึงถือว่ามีความผิด


นอกจากนี้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังระบุว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร จับนายหยู่ ฉาง เฟย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 กลุ่มเสือจีนเทา ที่เป็นเจ้าของสถานบันเทิงคลับ วัน ที่พัทยา จังหวัดชลบุรีได้แล้ว ขณะกำลังจะหลบหนีไปประเทศลาว เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาขออนุญาตอยู่ในประเทศไทยในฐานะนักเรียน ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริง จึงจำเป็นต้องเรียกตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดแพร่ อุดรธานี และเชียงใหม่ ที่พบว่าเกี่ยวข้องกับการอนุญาตผู้ต้องหา มาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยว ข้องหรือเอื้อประโยชน์หรือไม่


ตั้งแต่เมื่อคืน กระทั่งถึงช่วงสายวันนี้ ตำรวจระดมกำลังตรวจค้น 42 จุดทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อหาเบาะแสเครือข่ายกลุ่มนายทุนชาวจีน และนอมินี ที่พัวพันกับยาเสพติด หรือสถานบันเทิงผิดกฎหมาย รวมถึงบ้านหลังหนึ่งย่านเอกมัย ซอย 10 ของนายเดวิด หรือซุย ไท่ เว่ย ผู้บริหารร้านBaby Face พร้อมยึดรถยนต์หรู 3 คันไปตรวจสอบ


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุว่านายเดวิดพัวพัน กับพนันออนไลน์ ยาเสพติด และสถานบริการผิดกฎหมาย แต่ตอนนี้แจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดเกี่ยวกับ พรบ.สรรพสามิต กรณีรถยนต์หรูและสุราต่างประเทศจำนวนมาก ที่นายเดวิดครอบครอง


ขณะที่พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ งานปราบปราม ระบุว่าข้อมูลที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เปิดเผยถึงกลุ่มทุนจีน และนอมินี ทำให้ติดตามจับ และดำเนินคดีได้หลายกลุ่ม และวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเข้าพบสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อหารือการวางมาตรการ ป้องกันคนจีนทำผิดในประเทศไทย

คุณอาจสนใจ

Related News