เปิดมาตรการความปลอดภัยรับฮาโลวีน นำร่อง ถ.ข้าวสาร จ่อเป็นโมเดลทุกเทศกาล

สำหรับประเทศไทย วันพรุ่งนี้ (31 ต.ค. 65) ก็จะมีการจัดเทศกาลฮาโลวีน ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่ถนนข้าวสารแหล่งท่องเที่ยวของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่สำคัญ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 20,000 คนมาร่วมงาน ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการถนนข้าวสารได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่จัดทำมาตรการป้องกันความปลอดภัยจากเหตุแออัด อัคคีภัยและโรคระบาดขึ้น โดยจะนำมาใช้เป็นโมเดลกับทุกเทศกาลนับจากนี้



ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ บนถนนข้าวสาร ต่างนำอุปกรณ์ตกแต่งในเทศกาลฮาโลวีน มาประดับร้านเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางมาเที่ยวกันในช่วงเทศกาลในวันที่ 31 ตุลาคมนี้



แม้วันนี้จะเป็นวันอาทิตย์ แต่หลายร้านก็ยังคงเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ ที่เลือกใช้วันหยุดพักผ่อนในประเทศไทย มาเที่ยวกันที่ถนนข้าวสาร ซึ่งหลายคนเลือกที่จะมาท่องเที่ยวอีกครั้งในคืนวันฮาโลวีนพรุ่งนี้ ท่ามกลางความกังวลถึงความปลอดภัย หากเกินเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นในกรณีที่มีคนจำนวนมากมาแออัดในสถานที่เดียวกัน



สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารได้ จัดเตรียมมาตราการท โดยจะกำหนดจุดเข้าออกบริเวณหัวและท้ายถนนเพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยว ป้องกันการพกพาอาวุธและวัตถุอันตราย มีรถพยาบาลคอยสนับสนุน / เพิ่มทางออกย่อย 7 เส้นทางที่เชื่อมไปยังถนนตะนาว และ ถนนรามบุตรี ซึ่งจะมีการติดป้ายบอกทางให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้



ขณะที่ผู้ประกอบการบนถนนข้าวสารจะใช้มาตรการเดิมตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ควบคุมทั้งความปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉินและโรคระบาด ด้วยการจำกัดจำนวนลูกค้าภายในร้าน การควบคุมความปลอดภัยในอาคาร และ เพิ่มไฟส่องสว่าง



นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ระบุว่าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประกอบการได้หารือร่วมกับเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ตำรวจ และหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อเตรียมมาตรการรองรับกรณีฉุกเฉิน



ด้วยความกว้างของถนนข้าวสารตลอดความยาวกว่า 400 เมตร มีความกว้างถึง 12 เมตร ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดความแออัดได้



ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวว่าทางเขตได้หารือร่วมกับทางกลุ่มผู้ประกอบการมาแล้วถึง 3 ครั้ง ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนได้เป็นมาตรการที่ชัดเจน ซึ่งทางเขตจะจัดพื้นที่ปลอดภัยข้างเคียงสนับสนุนกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น เช่น สวนหย่อมบริเวณข้างวัดบวรนิเวศราชวรมหาวิหาร และ สน.ชนะสงคราม ไว้รองรับจำนวนคนที่หลั่งไหลออกมา โดยพร้อมใช้ความร่วมมือนี้เป็นโมเดลกับงานเทศกาลในครั้งต่อๆ ไป



สำหรับสถานบันเทิงในเขตกรุงเทพมหานครที่มักมีการจัดงานควบคู่ไปกับเทศกาล ทางกทม. ก็เคยตรวจตราเพื่อสร้างมาตรฐานในมาตรการความปลอดภัยทั้งการลดความแออัด เหตุอัคคีภัยและความคุมโรคไว้แล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีการแจ้งให้หลายแห่งปิดปรับปรุงทางหนีไฟให้ได้มาตรฐานจนเกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งประเทศไทยเองยังไม่เคยมีเหตุแออัดหรือเหยียบกันจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บแบะเสียชีวิตเกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อยในพื้นที่แออัด มีประชาชนหนาแน่น ประชาชนจึงควนสังเกตความพร้อมของสถานที่ไว้ก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัย