อุบลฯ เจอพายุโนรูแล้ว ผู้ว่าฯ สั่งเพิ่มศูนย์อพยพกำชับทุกหน่วยเฝ้าระวัง ขณะระดับน้ำในเเม่น้ำมูลเพิ่มสูงต่อเนื่อง

พายุโนรู เข้าเขตประเทศไทย เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดแรกที่ได้รับผลกระทบ โดยมีฝนตกต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนพายุโนรูเข้าไทย ในขณะที่ระดับน้ำในเเม่น้ำมูล ก็เพิ่มสูงต่อเนื่องเช่นกัน ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สั่งให้เพิ่มศูนย์อพยพ กำชับทุกหน่วยจัดกำลังคอยเฝ้าระวังภัย จนกว่าพายุลูกนี้จะพัดผ่านไป


ทีมข่าว3มิติ ได้คุยกับชาวบ้านที่นี่ พวกเขาบอกว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังน่าห่วง ระดับน้ำที่เอ่อล้นจากเเม่น้ำมูล เพิ่มสูงต่อเนื่อง บางส่วนเลือกที่จะอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน เเต่สำหรับครอบครัวที่บ้านชั้นเดียว พวกเขาต้องจำใจขนย้ายสิ่งของเเละอพยพออกไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว


เช่น ครอบครัวนี้ บทเรียนจากน้ำท่วมใหญ่ในปี 2562 ประกอบกับคำเตือนเรื่องอิทธิพลจากพายุ ทำให้พวกเขาต้องเร่งเก็บของเเละอพยพ หลังพบว่าระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวานหลายสิบเซ็นติเมตร หากฝนยังไม่หนุดเเละยังตกต่อเนื่องเเบบนี้ ก็เกรงว่า ไม่ภายในคืนนี้ หรือไม่ก็วันพรุ่งนี้ น้ำน่าจะทะลักเข้าไปในบ้าน ไปฟังเสียงชาวบ้านครับ


ข้อกังวลของชาวบ้าน สอดคล้องกับข้อมูลของ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่ลงพื้นที่สำรวจจุดนี้ ยืนยันกับข่าว 3 มิติ ประเมินจากสถานการณ์ มีเเนวโน้มที่ระดับน้ำในเเม่น้ำมูลจะสูงขึ้นอีก เบื้องต้นได้กำชับทุกท้องถิ่น เตรียมพื้นที่ปลอดภัย เพื่อรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ


ส่วนพายุโนรู ท่านผู้ว่าพงศ์รัตน์ บอกว่า เคลื่อนจากสปป.ลาว เข้าสู่เขตอุบลราชธานีเเล้ว ที่ต้องเฝ้าระวังก็คือ ภัยจากลมที่พัดเเรง ซึ่งได้สั่งการให้ทุกหน่วยจัดกำลังคอยเฝ้าระวังภัยตลอด 24 ชั่วโมง


เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี จุดวัดระดับน้ำริมตลิ่ง ปักธงเเดงเเจ้งเตือนระดับวิกฤต จากข้อมล พบชุมชนลุ่มต่ำริมแม่น้ำมูลในเขตเทศบาล มีน้ำท่วมแล้ว 14 ชุมชน ประชาชนเดือดร้อน กว่า 500 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ 1200 คน


เราข้ามฝั่งไปดูผลกระทบในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ เมื่อวานเรามารายงานสดที่นี่ เเละวันนี้ก็พบว่า ระดับน้ำสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 20 เซนติเมตร ประชาชนต้องใช้เรือในการสัญจร เเต่หลายคนที่อยู่ไม่ลึกมาก ก็เลือกที่จะเดินเท้า

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สนทช. ได้วิเคราะห์ เเละอธิบาย ถึงข้อสงสัย ทำไมวารินชำราบ จึงน่าห่วง เหตผลก็เพราะด้วยสภาพพื้นที่ของวารินชำราบ ต่ำกว่าอำเภอเมือง เมื่อน้ำมูลสูงจึงไหลเข้าท่วมง่าย หลายจุดไม่มีพนังกั้นน้ำ กลายเป็นช่องว่างให้น้ำทะลักเข้าท่วม คาดว่าจากนี้ น้ำในแม่น้ำมูลจะสูงขึ้นอีก 1 – 1.5 เมตร ในอีกไม่กี่วันนับจากนี้

ขณะผู้ว่าอุบลราชธานี เเนวทางจากนี้ คือการเร่งระบายน้ำมูลออกสู่เเม่น้ำโขง ที่ยังมีศักยภาพรับได้อีกมาก เเต่อุปสรรคสำคัญก็คือ เกาะเเก่งตามลำน้ำ เบื้องต้นได้ประสานกับชลประทาน ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มอีกหลายจุด เพื่อให้น้ำมูลไหลระบายได้เร็วขึ้น