เร่งหาต้นตอขยะ 5 แสนตัน จ.ระยอง พร้อมพิสูจน์เป็นกากอุตสาหกรรมหรือไม่

สัปดาห์ที่แล้วข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งพบบ่อขยะที่ถูกลักลอบทิ้งอย่างผิดกฎหมาย และกรมโรงงานอุตสาหกรรม อยู่ระหว่างร้องทุกข์กล่าวโทษ เจ้าของที่ดิน ในฐานะครอบครอง และจะสืบสาวไปหาที่มาของขยะเหล่านี้ที่นำออกจากโรงงานอย่างผิดกฎหมาย และล่าสุด ก็พบเศษวัสดุจำนวนมาก ถูกขนย้ายจากโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ที่จังหวัดระยอง ออกมาทิ้งแบบฝังกลบข้างนอก เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เป็นกากขยะอุตสาหกรรมหรือไม่



เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง หลังมีผู้ร้องเรียนว่า มีรถบรรทุกกว่า 100 คัน ขนย้ายวัสดุคล้ายผงดิน และเกิดฟุ้งกระจายไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญในชุมชน และหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ได้สั่งให้โรงงานดังกล่าวหยุดกิจกรรมทั้งหมดไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการขุดตักหรือเคลื่อนย้าย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง



ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม เปิดเผยกับข่าว 3 มิติว่า เดิมบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้ง ของกิจการโรงงานงานปุ๋ยแห่งชาติ แต่ถูกขายทอดเปลี่ยนมือไปแล้ว แต่ยังเหลือกอง วัสดุมากกว่า 5 แสนตันอย่างที่ปรากฏอยู่ในบริเวณนี้



ปัญหาตอนนีั้ ผู้ประกอบกิจการเจ้าใหม่ต้องการใช้ประโยชน์บนที่ดิน จึงทยอยขนวัสดุดังกล่าวออกไปถมที่ดินเอกชนห่างออกไปราว 10 กิโลเมตร นอกนิคมอุตสาหกรรม จนสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ตอนนี้กิจการดังกล่าวไม่เพียงถูกสั่งหยุด แต่ยังต้องตรวจสอบด้วยว่าวัสดุที่ขนย้ายออกไปนั้น เป็นกากเคมีอุตสาหกรรมที่เหลือจากกิจการปุ๋ยหรือไม่ หากเป็นกากเคมีอุตสาหกรรม ต้องถูกดำเนินคดีด้วย



มีข้อมูลว่าผู้ประกอบการรายดังกล่าว ชี้แจงเจ้าหน้าที่แล้ว และระบุว่าเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าการกองดินดังกล่าว เป็นผลิตภัณฑ์ที่สำเร็จรูปของกิจการโรงงานผลิตปุ่ยแห่งชาติ ที่ เหลืออยู่ หลังจากยุติไปกว่า 20 ปี ซึ่งเจ้าของกิจการใหม่ ได้ขนย้ายออกไปแล้วราว 8 ตัน จากทั้งหมดประมาณ 5 แสนตัน โดยไม่คิดว่าจะผิดกฎหมาย แต่กรมโรงงานฯระบุว่า รอผลตรวจในห้องแล็บ เพื่อจะยืนยันาเป็นกากเคมี หรือขยะอุตสาหกรรมหรือไม่ หากไม่ใช่ ผู้ประกอบการ ก็ดำเนินกิจการต่อได้ ส่วนที่เกิดปัญหาเดือดร้อน รำคาญ ก็ใช้ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินคดี



สัปดาห์ที่แล้วข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าไปตรวจบ่อขยะแห่งหนึ่ง ในตำบลหัวสำโรง ที่พบการลักลอบทิ้งขยะมาเกือบ 10 ปี



โดยซากขยะที่เหลืออยู่เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นกากขยะอุตสาหกรรม ที่ครอบครองโดยไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจนทราบเจ้าของที่ดินแปลงนี้แล้ว และกำลังแจ้งความร้องทุกข์เจ้าของที่ดิน ฐานครอบครองกากขยะอุตสาหกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป้าหมายต่อไปคือสืบหาที่มาของขยะดังกล่าวว่าออกมาจากโรงงงานใด โดยเทียบเคียงว่าขยะที่พบถูกทิ้ง ตรงกับโรงงานใดที่ขออนุญาตทำกิจการประเภทนี้ โดยใช้วิธีนี้ควบคู่ไปกับการสอบปากคำเจ้าของที่ดินด้วย