สังคม

ออกหมายจับ 'พ่อเสี่ยบี' เจ้าของ 'เมาน์เทนบี' ตัวจริง - 'รณณรงค์' ร้องกองปราบโอนคดี หวั่นผู้มีอิทธิพล

โดย panwilai_c

15 ส.ค. 2565

115 views

หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิงเมาน์เทนบี ที่จังหวัดชลบุรี และมีชายวัย 27 ปี แถลงต่อสื่อมวลชนยอมรับเป็นเจ้าของผับ เพราะมีชื่อเป็นผู้ขอใบอนุญาต เปิดร้านอาหาร ดังกล่าว และก็อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี ท่ามกลางข้อสงสัยว่าชายคนนี้ เป็นเจ้าของเมาน์เทนบี จริงหรือไม่ ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพัทยาอนุมัติหมายจับนายสมยศ ปั้นประสงค์ พ่อของนายพงษ์ศิริ หลังตำรวจสืบสวนพบความเชื่อมโยงว่าเป็นเจ้าของผับตัวจริง แต่ใช้ชื่อบุตรชายดำเนินกิจการ



ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับนายสมยศ ปั้นประสงค์ อายุ 55 ปี ใน 2 ข้อหา คือกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และบาดเจ็บสาหัส และข้อหาที่ 2 ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต



ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ดำเนินคดีกับ นายพงษ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ บี ชายวัย 27 ที่แถลงข่าวยืนยันว่าเป็นเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าว โดยมีเอกสารการขออนุญาตเพื่อเปิดร้านอาหาร เป็นสิ่งยืนยัน ท่ามกลางข้อสงสัยของสังคมว่า ยังมีคนอื่นอยู่เบื้องหลัง หรือเป็นนายทุนให้ นายพงษ์ศิริ ด้วยหรือไม่ กระทั่งวันนี้ ที่ตำรวจขอนุมัติหมายจับนายสมยศ ซึ่งเป็นบิดาของนายพงษ์ศิริ เพราะพบว่ามีความเชื่อมโยงเป็นผู้ประกอบกิจการ โดยใช้ชื่อบุตรชายเป็นผู้ขออนุญาต



และเมื่อเวลา 2 นาฬิกา 50 นาที ก็มีผู้บาดเจ็บสาหัสจากเพลิงไหม้ เสียชีวิตอีกเป็นคนที่ 19 คือนางสาวอาทิตยา อินศิริ แฟนสาวของนักร้องที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยนางสาว อาทิตยา ถูกเพลิงไหม้ร่างกายแบบ 100 เปอร์เซ็น เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เป็นเวลา 10 วัน กระทั่งเสียชีวิตในวันนี้ ทำให้เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 13 คน เสียชีวิตภายหลังที่โรงพยาบาล อีก 6 คน รวมผู้เสียชีวิต 19 คนแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บที่อาการสาหัส ที่ยังใส่เครื่องช่วยหายใจ มี 8 คน



วันนี้นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาตัวแทนญาติ ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต จำนวน 13 คน จากทั้งหมดที่แจ้งความจำนงมา 30 กว่าคน ร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม ขอให้โอนสำนวนคดีให้ตำรวจกองปราบปรามรับผิดชอบ เพราะเกรงจะผู้มีอิทธิพลในพื้นที่แทรกแซง โดยนำภาพถ่ายการตรวจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ไปมอบให้ตำรวจเพื่อยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จะไม่ทราบมาก่อนว่ามีการเปิดผับโดยไม่ถูกกฎหมาย

คุณอาจสนใจ

Related News