สังคม

หวั่นซ้ำรอย 'ซานติกา' ทนายรณณรงค์ยื่นดีเอสไอ รับคดีไฟไหม้ 'เมาน์เทนบี' เป็นคดีพิเศษ

โดย panisa_p

9 ส.ค. 2565

54 views

ความเคลื่อนไหวกรณีเพลิงไหม้ผับ Mountain B วันนี้ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ไปร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อดูว่ามีใครบ้างเป็นหุ้นส่วน หรือมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใด คอยรับผลประโยชน์จากทางร้านหรือไม่ ขณะที่นายพงศ์ศิริ หรือเสี่ยบี ออกมาเปิดใจครั้งเเรก ขอโทษเเละรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยัน ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง


นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือบี พร้อม นางสาวอนงค์นารถ ภรรยา ร่วมกันแถลงเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งเเรก หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 15 คน เเละบาดเจ็บอีก 37 คน นางสาวอนงค์นารถ บอกว่า สามีเป็นคนพูดน้อย พร้อมกล่าวยืนยันว่า เรื่องการคัดกรองคนเข้าผับ ไม่ทราบจริง ๆ ว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการ เพราะปกติเเล้วจะให้การ์ดตรวจดูบัตรประชาชนทุกคน และหน้าร้านก็มีป้ายชัดเจนอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงมีเยาวชนเข้าไปได้


ตอนนี้กำลังเตรียมทรัพย์สินเเละหาเงิน เพื่อเอามาเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ แต่ยังไม่สามารถบอกตัวเลขได้ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน เข้าใจว่าการสูญเสียไม่สามารถเปรียบเทียบเป็นมูลค่าได้ ยอมรับว่า สภาพจิตใจของตนเองและสามี รวมถึงครอบครัวแย่มาก และตอนนี้ก็นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


พร้อมกล่าวขอโทษผู้ใหญ่ที่ถูกพาดพิง ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยมีเส้นสายใด ๆ ไม่ได้มีผู้ใหญ่เป็นแบ็คอัพตามที่ถูกกล่าวหา การเปิดสถานบริการ เป็นของตนและสามี ซึ่งเป็นคนบริหารจริง ๆ พร้อมรับว่า ตอนที่เปิดผับแห่งนี้ ทำไปด้วยความคิดน้อย และไม่ได้ขอเปิดให้ถูกต้อง


ขณะที่นายพงศ์ศิริ หรือบี ได้ยกมือไหว้ขอโทษ กล่าวเสียใจกับเหตุการณ์นี้ ตนเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ขอให้ญาติอโหสิกรรมให้ด้วย ก่อนหน้านี้รู้สึกผิดและอยากไปบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต


อีกด้านหนึ่ง ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ขอให้ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ เพราะเชื่อว่าการเปิดสถานบริการดังกล่าว ต้องมีการเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่


ส่วนตัวไม่เชื่อว่า นายบีจะเป็นเจ้าของตัวจริง เพราะอายุเพียงแค่ 27 ปี อาจเป็นคนบริหารผับเองก็จริง แต่เงินทุนที่เอามาใช้อาจมาจากเเหล่งอื่น เพราะโดยปกติแล้ว ธุรกิจผับบาร์มักจะมีหุ้นลม คือคนที่เอาเงินมาลงทุนโดยไม่เปิดเผย ซึ่งส่วนมากจะเป็นคนมีสี จึงต้องให้ดีเอสไอเข้าไปสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนว่า เงินจากธุรกิจนี้ปันผลไปให้ใคร


เพราะหากสรุปจบที่นายบีเป็นเจ้าของผับ และไม่มีการสืบสวนหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อ ทนายรณณรงค์บอกว่า กลัวว่าจะเป็นการตัดตอนเหมือนกับกรณี "ซานติก้าผับ" ที่สุดท้ายแล้ว ผู้เสียหายจะไม่ได้รับการเยียวยา


พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ บอกว่า ขั้นตอนจากนี้ จะให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นก่อน จากนั้นจะนำมาพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์จะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ซึ่งในคำร้องที่ทนายรณณรงค์ยื่นมา ระบุว่า อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นหลักเกณฑ์ที่เข้าข่ายการเป็นคดีพิเศษ แต่ต้องตรวจสอบก่อน

คุณอาจสนใจ