เหยื่อ 'เมาน์เทนบี' ล่าสุดดับแล้ว 14 ราย ตร.จ่อออกหมายจับเจ้าของ พบลอบดัดแปลงอาคาร

เหตุโศกนาฏกรรมจากกรณีเพลิงไหม้ผับ ที่สัตหีบ ชลบุรี ล่าสุด มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้วอย่างน้อย 14 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชน อายุ 17 ปี รวมอยู่ด้วย ข่าว 3 มิติ ส่งทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่าผับแห่งนี้ ลักลอบดัดแปลงอาคาร เปิดเป็นสถานบริการโดยไม่มีใบอนุญาต ที่ผ่านมาเคยถูกประชาชนร้องเรียนหลายครั้ง ขณะผู้ช่วยผบ.ตร.แถลงความคืบหน้าทางคดี พบข้อมูลมีการล็อคประตูทางออก-จุดเชื่อมต่อทางหนีไฟจากด้านนอก กำลังรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเจ้าของผับ "Mountain B"



นาทีชีวิต ที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น จากภาพจะเห็นไฟโหมไหม้-ลุกลามอย่างรวดเร็ว ผู้คนพยายามเบียดแย่งกันหนีออกมาทางด้านหน้า ที่น่าสลดหดหู่ ก็คือในขณะที่หลายคนหนีออกมาด้วยความปลอดภัยแล้ว แต่ระหว่างนั้นก็ยังมีผู้คนจำนวนหนึ่ง ถูกไฟคลอกและพยายามหนีออกจากอาคาร เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งสิบห้านาที



ยอดผู้เสียชีวิต ยืนยันล่าสุดอยู่ที่ 14 ราย ชาย 10 หญิง 4 ตามรายชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอขณะนี้ ที่น่าสนใจก็คือในจำนวนนี้ มีเยาวชนวัยเพียง 17 ปี รวมอยู่ด้วย โดยร่างผู้ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 13 ราย ถูกส่งไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ส่วนยอดผู้บาดเจ็บมี 35 คน บางส่วนถูกไฟไหม้อาการสาหัส ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ-ยังไม่รู้สึกตัว



เช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจที่เกิดเหตุ พบโครงสร้างเริ่มแอ่นตัว ทรัพย์สินภายในเสียหายเกือบทั้งหมด ทั้งวัสดุตกแต่ง ผนังซับเสียง อุปกรณ์บนเวที โดยเฉพาะบริเวณฝ้าเพดาน ซึ่งถูกตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาจมีสาเหตุและมีจุดเริ่มต้นจากบริเวณนี้หรือไม่



รายงานการสืบสวนของตำรวจ ระบุว่า จากการสอบปากคำเจ้าของร้าน ให้ข้อมูลว่าเมื่อวานนี้ตอนกลางวัน ได้เรียกช่างไฟมาซ่อมระบบไฟฟ้าบนเพดาน หลังพบระบบมีปัญหา



ตรวจสอบเอกสารกับเจ้าหน้าที่โยธา อำเภอสัตหีบ ยังพบว่า ที่ผับ "Mountain B" ขออนุญาตเปิดเป็นร้านอาหารและจำหน่ายสุรา แต่กลับลักลอบต่อเติมอาคารปิดทึบ ดัดแปลงทำเป็นผับที่เข้าข่ายสถานบริการ เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมิถุนายน จากนั้นก็เริ่มมีเสียงร้องเรียนจากชาวบ้านหลายครั้ง โดยเฉพาะเรื่องเสียงดังรบกวนยามวิกาล โดยเฉพาะวันศุกร์เสาร์ ทีนักเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก จากภาพมุมสูงจะเห็นว่า รอบ ๆ อาคารรายล้อมไปด้วยชุมชนที่พักอาศัย



ล่าสุด วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพิ่งถูกดำเนินคดีในข้อหา ลักลอบเปิดเกินเวลา และตั้งสถานบริการโดยไม่มีใบอนุญาต แต่ที่สังคมตั้งคำถามคือ ทำไมยังกลับมาเปิดได้ หรือมีใครที่ใหญ่กว่า อยู่เบื้องหลังหรือไม่



จากกราฟิกแผนผังนี้ ท่านผู้จะได้เห็นลักษณะคร่าว ๆ ในตัวอาคาร ทางเข้าหลักจะอยู่ด้านหน้า ถัดไปจะเป็นห้องโถง มีประตูอีกหนี่งด่านตรงจุดคัดกรอง เดินเข้าไปจะเจอกับแบล็คดร็อปกั้นบู้ธดีเจ จากนั้นก็จะเป็นโซนให้บริการ และเวทีอยู่ในสุด และถ้าดูจากกราฟิกจำลอง จะเห็นจุดวางประตู หลัก ๆ ที่รวบรวมมามีดังนี้ ประตูหลักทางเข้า-ออก อยู่หน้าสุด ถัดมาด้านข้าง มีประตูเลื่อนบานใหญ่ แต่จุดนี้จากข้อมูลระบุว่า เป็นช่องสำหรับส่งของ นักดนตรีหรือนักเที่ยวไม่มีใครรู้ จะรู้ก็เฉพาะพนักงานของร้าน



อีกบานอยู่ด้านหลัง เป็นช่องเล็ก ๆ เพื่อให้นักดนตรีขนเครื่องเข้าไปบนเวที ซึ่งเชื่อมกับประตูเล็กอีกบานบริเวณข้างเวที ซึ่งกำลังถกเถียงกันว่า หลังจากนักดนตรีเข้าไปแล้ว จุดนี้มีการล็อคไม่ให้คนเข้า-ออก จริงหรือไม่ / เรามีเสียงจากพนักงานร้าน ให้ข้อมูลอีกด้านกับทีมข่าวช่อง 3



ข่าว 3 มิติ สังเกตการณ์ตลอดทั้งวัน ไม่พบวี่แววเจ้าของกลับมาที่ร้าน แต่ก็มีรายงานว่า ผู้ที่ไปพบตำรวจ อายุยังไม่มาก ทราบชื่อคือนาย พงษ์ศิริ แต่ยังไม่ยืนยันว่ามีใครบ้างเป็นหุ้นส่วน หรือมีนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง



พลตำรวจเอกสมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผบ.ตร. ลงพื้นที่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ระบุว่าได้รับรายงานยืนยันว่าผับแห่งนี้ ล็อคประตูด้านข้างจุดเชื่อมต่อกับทางหนีไฟ การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายความผิด ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ขอออกหมายจับเจ้าของผับ "Mountain B"



ล่าสุด มีคำสั่งจากอธิบดีกรมการปกครอง ย้ายด่วน นายอำเภอสัตหีบ ไปช่วยราชการ ที่กรมการปกครอง หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะมาจากปัญหา การเปิดสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง



ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า การขออนุญาตเปิดสถานบริการ ต้องยื่นขอต่อนายอำเภอ ทางอำเภอมีหน้าที่ตรวจสอบ อาคารสถานที่ที่ขออนุญาตว่าถูกต้องเหมาะสมตามเงื่อนไขหรือไม่ ก่อนส่งเรื่องให้คณะกรรมการของจังหวัด เป็นผู้อนุญาต