สำรวจอ่าวพร้าว ครบ 9 ปี เหตุน้ำมันดิบรั่วลงทะเล เกาะเสม็ด

วันหยุดยาวของสัปดาห์นี้ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งมีนักท่องเที่ยวคึกคัก หนึ่งในนั้นคือเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง แต่ตลอดสัปดาห์นี้ของเมื่อ 9 ปีก่อน ที่นั่นได้รับผลกระทบ อย่างหนักจากคราบน้ำมันดิบที่รั่วไหลลงทะเลและถูกพัดขึ้นอ่าวที่นั่น


วันนี้คุณมนตรี อุดมพงษ์ กลับไปสำรวจความสมบูรณ์ของท้องทะเลอ่าวพร้าว และหลายอ่าวของเกาะเสม็ด ที่ครบ 9 ปี เหตุน้ำมันรั่วลงทะเล 


ท้องทะเลของอ่าวพร้าว อุทยานเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดในสุดสัปดาห์นี้ มีโอกาสตอนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะคนไทยที่ใช้ช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ของสัปดาห์นี้ ไปพักผ่อนแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และเกาะเสม็ด ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกนั้น แม้ว่าเมื่อ 9 ปีก่อน ตลอดสัปดาห์นี้ ที่อ่าวพร้าวคือช่วงชุลมุลของ การเก็บคราบน้ำมันดิบ แต่ตอนนี้แตกต่างกันสิ้นเชิง


จุดที่เคยมีคราบน้ำมันเกยตึ้นชายหาดเมื่อ 9 ปีก่อน ตอนนี้สะอาด นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นคนนี้มาเกาะเสม็ดเป็นครั้งแรกเธอก็ประทับใจ


ส่วนใต้ท้องทะเลบริเวณนี้ ก็ใสมากพอที่จะเห็นกลุ่มปลา ว่ายแหวกในทะล ช่วงบ่ายของวัน ที่น้ำกำลังขึ้น บริเวณโขดหินที่อ้าวพร้าว น้ำทะเลที่อ้าวพร้าว หรือชายหาดที่อ้าวพร้าว หากมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็นผลกระทบใดๆ 



กิจการรีสอร์ท ที่พักหลายแห่งโดยเฉพาะที่อ่าวพร้าว ซึ่งเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ต้องปิดกิจการถึง 3 เดือน ในช่วงที่ น้ำมันดิบรั่วมาขึ้นฝั่ง ตอนนี้หากไม่ติดโควิด ก็คงถูกจองเต็มทั้งหมด และรีสอร์ทแมเนเจอร์คนนี้ก็สะท้อนว่า จริงอยู่ตอนนี้มองด้วยตาเปล่า ไม่เห็นผลกระทบ ใต้ท้องทะเล และนักท่องเที่ยวก็ค่อนข้างพอใจต่อความงามและคุณภาพ แต่เป็นความจริงที่ว่า ทุกครั้งที่มีข่าวน้ำมันรั่ว ทั้งเมื่อ 9 ปีที่แล้ว และเมื่อต้นปีนี้ ที่มีน้ำมันรั่วอีก มักถูกยกเลิกการจอง

ตอนนี้แทบทุกอ่าวรอบเกาะเสม็ด มีนักท่องเที่ยวในจำนวนที่เพิ่มขึ้น แม้ไม่เท่ากับช่วงก่อนโควิด แต่ก็มีแนวโน้มที่ดี เพียงแต่ที่นี่ต้องมีความเชื่อมั่น จากภาคอุตสาหกรรมโดย เฉพาะน้ำมัน ที่หากมีกรณีรั่วไหล จะกระทบต่อภาคท่องเที่ยวทันที



เสียงสะท้อนนี้ยังมีจากภาคประมงที่เห็นว่ามองด้วยตาเปล่าไม่สามารถประเมินผลกระทบจากน้ำมันดิบที่มีต่อสัตว์น้ำได้ ต้องอาศัยการติดตามศึกษาระยะยาว และภาคอุตสาหกรรมต้องสร้างความเชื่อมั่นเมื่อรับมือเหตุฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพกว่าที่เป็นมา



ตอนนี้ภาคธุรกิจได้รับเงินค่าเสียหายจากน้ำมันรั่วเมื่อปี ๒๕๕๖ แล้ว แต่ภาคประชาชนที่ ฟ้องค่าเสียหายทางแพ่ง ๔๒๙ คน ศาลชั้นต้นพิพากาแล้ว และมีอีก ๒๗๒ คนที่ยื่นต่อในชั้นอุทธรณ์และฎีกา /ส่วนคดีทางปกครองที่ฟ้องภาครัฐ ๖ หน่วยงานนำโดยผุ้ว่าราชกาจังหวัดระยองตั้งแต่ปี ๒๖๕๗ นั่นศาลปกครองระยองยกฟ้อง แต่โจทก์อยู่ระหว่างอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด

ส่วนกรณีน้ำมันรั่วเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ทั้งภาคธุรกิจท่องเที่ยวยื่นค่าความเสียหายไปแล้ว รอการเจรจาให้ได้ข้อสรุป


ส่วนภาคประมงและผุ้ค้าอาหารทะลเรวมกว่า 800 คน อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นฟ้อง