ดับสลด! เท็กซัส พบศพผู้อพยพ อย่างน้อย 48 ราย หลังรถบรรทุกพ่วง ที่ถูกจอดทิ้งไว้

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พบศพของผู้อพยพ อย่างน้อย 48 ศพ หลังรถบรรทุกพ่วงที่ถูกจอดทิ้งไว้ ในเมืองซาน อันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ลักลอบค้ามนุษย์ข้ามพรมแดนสหรัฐฯ และ เม็กซิโก ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด

หน่วยงานดับเพลิงของเมืองซาน อันโตนิโอ เปิดเผยว่า รถบรรทุกคันดังกล่าว ถูกพบอยู่ข้างๆ รางรถไฟในย่านเซาท์เวสต์ ไซด์ (Southwest Side ) ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนเม็กซิโก 250 กิโลเมตร โดยนอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีอย่างน้อย 16 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นโรคลมแดด และอาการอ่อนเพลีย ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 4 คน



ด้านหัวหน้าตำรวจท้องถิ่น ระบุว่า มีคนที่ทำงานอยู่ในอาคารใกล้เคียง ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ดังออกมาจากรถบรรทุกคันดังกล่าว จึงเดินเข้าไปตรวจสอบ แล้วก็พบเห็นประตูตู้บรรทุกของรถเปิดแง้มอยู่ และเมื่อมองเข้าไป ก็พบกับศพผู้เสียชีวิตจำนวนมาก



รายงานระบุว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง ก็ไม่พบกับคนขับรถบรรทุกแล้ว ขณะที่ภายในตู้บรรทุกยังไม่มีเครื่องปรับอากาศที่สามารถทำงานได้ รวมถึงน้ำดื่ม ดังนั้น จึงสันนิษฐานว่า สาเหตุของการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากอาการอ่อนเพลียจากความร้อนและการขาดน้ำ ซึ่งเมื่อวานนี้ มีรายงานว่าเมืองซาน อันโตนิโอ มีสภาพอากาศร้อนจัด และอุณหภูมิสูงถึง 39.4 องซาเซลเซียส



เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวบุคคลอย่างน้อย 3 คน แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการลักลอบค้ามนุษย์นี้หรือไม่



ด้านโฆษกของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา หรือ ICE เผยว่า ฝ่ายสืบสวนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเข้ามาสืบสวนเหตุการณ์นี้ โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่น



ทั้งนี้ เมืองซาน อันโตนิโอ ถึงเป็นหนึ่งในเส้นทางที่มักมีการลักลอบพาผู้อพยพจากฝั่งเม็กซิโกเข้ามาในสหรัฐฯ อยู่เสมอ โดยผู้ที่ลักลอบค้ามนุษย์ มักใช้รถบรรทุกในการขนย้ายผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร หลังจากลักลอบข้ามพรมแดนมาได้



และก่อนหน้านี้ เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ เกิดขึ้นมาแล้วในเดือนกรกฎาคม 2560 โดยตำรวจเมืองซานอันโตนิโอ พบศพของผู้อพยพอย่างน้อย 10 ศพในรถบรรทุก ที่จอดอยู่ในลานจอดรถของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ซึ่งคนขับรถถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว และถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต



เหตุการณ์ในครั้งนี้ ยังเป็นเครื่องตอกย้ำความท้าทายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการควบคุมผู้อพยพ ที่ลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามาในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาสหรัฐฯ ใกล้จะมีการเลือกตั้งกลางเทอม ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้พรรครีพับลิกัน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเปิดพรมแดนของรัฐบาล ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุสลดในครั้งนี้ขึ้น