ป.ป.ช.สุพรรณฯ ตรวจการถมที่รุกอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน หลังข่าว 3 มิติ ตีแผ่ปัญหารุกป่าเพื่อขายต่อ

ป.ป.ช. สุพรรณบุรี จับมือหน่วยที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการถมขยายพื้นที่อ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ที่สุพรรณบุรี หลังข่าว 3 มิติ ตีแผ่ปัญหา พร้อมการรุกป่าเพื่อขายต่อ

ความคืบหน้า ปัญหาการบุกรุกครอบครองพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ข่าว 3 มิติ ได้ลงพื้นที่ตีแผ่ปัญหาการถมพื้นที่ขยายรุกล้ำเข้าไปในอ่างเก็บน้ำ และมีการประกาศขายที่ให้กับผู้สนใจ ทั้งที่ที่ดินบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และห้ามซื้อขายเด็ดขาด

วันนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.จังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามที่ข่าว 3 มิติ เคยนำเสนอไปจริง แต่ระบุว่า บางจุดเพียงแค่การถมดินให้สูงขึ้น และมีการแจ้งความกล่าวโทษกับผู้ครอบครองที่ดินแล้ว

คณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.จังหวัดสุพรรณบุรี นำโดยนายนิติศักดิ์ วงษ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด พร้อมหน่วยงานฝ่ายปกครอง และกรมป่าไม้ เข้าไปตรวจสอบการบุกรุกถมดินลงอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ในอำเภอด่านช้าง ที่ข่าว 3 มิติ ตีแผ่ปัญหาไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งพบนายทุนธุรกิจท่องเที่ยวลักลอบขุดดินจากป่าสงวนไปถมเพิ่มที่ดินในอ่างเก็บน้ำ แล้วอ้างสิทธิ์เป็นที่ดินงอกเพื่อครอบครอง

การตรวจสอบของ ป.ป.ช.สุพรรณบุรี ระบุว่า ช่วงเดือนมิถุนายนมีการระบายน้ำออกเพื่อรอรับน้ำในฤดูฝน จึงเกิดการลักลอบถมดินกินพื้นที่อ่างเก็บน้ำจริง โดยเฉพาะ 4 จุดที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้ว จุดที่ 1 จุดที่ 2 และจุดที่ 4 พบขุดดินจากพื้นที่ใกล้เคียงในอ่างเก็บน้ำมาถมเพิ่มที่ เป็นลักษณะขั้นบันไดขยายเขตพื้นที่เดิม ส่วนจุดที่ 3 ผู้ถือครองที่ดินขุดดินจากชายเขาซึ่งเป็นที่ดินตนเองมาถมปรับแต่งที่ดินที่อยู่ติดน้ำให้สูงขึ้นโดยไม่ได้รุกล้ำลงไปในอ่างเก็บน้ำ

โดยผู้ถือครองทั้ง 4 แปลงเป็นบุคคลที่กรมป่าไม้ได้สำรวจสิทธิ์ไว้ก่อนแล้ว และเอกสารแบบบันทึกถ้อยคำผู้ครอบครองที่ดินของรัฐที่ข่าว 3 มิตินำมาเปิดเผย หน่วยงานป่าไม้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้จัดทำ และไม่เคยเคยเห็นเอกสารดังกล่าวมาก่อน

ทั้งนี้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สพ.1(ด่านช้าง) ได้แจ้งความกล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้ถือครองทั้ง 4 รายต่อพนักงานสอบสวน สภ.องค์พระ จังหวัดสุพรรณบุรี ท้องที่เกิดเหตุแล้ว สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดสุพรรณบุรี จะได้ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการต่อไป

ซึ่งก่อนหน้านี้ชุดเฉพาะกิจพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทันทีหลังการตีแผ่ของข่าว 3 มิติ พร้อมให้ข้อมูล ไว้ว่า

จุดที่ 1 ถมดินเกินลงไปในอ่างเก็บน้ำ 3 ไร่ 2 งาน 86 ตารางวา

จุดที่ 2 ถมดินเกินลงไปในอ่างเก็บน้ำ 2 ไร่ 1 งาน 84 ตารางวา

จุดที่ 3 บุกรุกขุดดินในเขตป่าสงวน 3 งาน 48 ตารางวา ไปถมที่ดิน คทช. ที่อยู่ระหว่างการสำรวจ

จุดที่ 4 ถมดินเกินลงไปในอ่างเก็บน้ำ 12 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวา

รายงานของชุดพยัคฆ์ไพรยังระบุว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย บุกรุกขุดดินในเขตป่าสงวนจริง และได้แจ้งความดำเนินกับทั้ง 4 รายแล้วเช่นกัน

ข่าว 3 มิติ ยังพบข้อมูลที่ไม่ตรงกับ ปปช. จังหวัดสุพรรณบุรี ว่าที่ดินทั้ง 4 แปลงถูกขายเปลี่ยนมือมาหมดแล้ว

จุดที่ 1 เดิมเป็นของชาวบ้านที่ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปัจจุบันขายต่อให้นายแพทย์คนหนึ่ง

จุดที่ 2 เดิมเป็นของนาง น. ขายต่อให้ผู้นำชุมชนในพื้นที่

จุดที่ 3 นายดาบตำรวจขายให้นายทุนเจ้าของรีสอร์ท

จุดที่ 4 อดีตผู้นำชุมชนขายให้นายทุนเจ้าของรีสอร์ท

การซื้อขายที่ดินมักจะไม่เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง เพื่อเลี่ยงให้เจ้าหน้าที่รู้ แต่ใช้วิธีทำสัญญาซื้อขายและบันทึกถ้อยคำเป็นหลักฐานแทน

ล่าสุด ข่าว 3 มิติ พบข้อมูลว่ายังมีอีกหลายจุดที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เข้าตรวจสอบ เช่นจุดลักลอบขุดดินหลังภูเขา หรือจุดปรับแต่งเนินเขาซึ่งเป็นของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องข้องกับป่าไม้ ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ในการตรวจสอบของข่าว 3 มิติ และเตรียมจะนำเสนอให้เห็นข้อเท็จจริงต่อไป