สังคม

ไฟไหม้โรงรีไซเคิลราชบุรี ยังไม่ดับสนิท กรมควบคุมมลพิษ ยันโรงงานต้องรับผิดชอบผลกระทบ

โดย panwilai_c

17 มิ.ย. 2565

46 views

ไฟไหม้ โกดัง 3 หลัง ของโรงงานรีไซเคิลกากขยะเคมีจากอุตสาหกรรม ที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ยังไม่ดับสนิท และอธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุว่าโรงงานต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและค่าเสียโอกาสที่เกิดจากเพลิงไหม้ครั้งนี้ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อให้โรงงานนำขยะออกจากโรงงานภายใน 15 วัน โดยมีรายงานว่า อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี ถูกสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ด้วย



ผ่านมาจนเกินกว่า 30 ชั่วโมงที่เพลิงไหม้โกดัง 3 หลัง ที่ใช้เก็บถังบรรจุกากขยะอุตสาหกรรม ของโรงงานแว็ก กาเบ็จ รีไซเคิลเซ็นเตอร์ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี แต่ก็ยังมีควันและกลิ่นฟุ้งกระจายไปในรัศมีกว่า 1 กิโลเมตร



ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงประสานกับโรงงานเพื่อควบคุมเพลิง โดยกรมควบคุมมลพิษประสานชุดผจญเพลิงกลับมาเฝ้าระวังจนกว่าจะดับสนิท พร้อมระบุว่าพนักงานสอบสวนและพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างหาคำตอบของเหตุเพลิงไหม้ แต่ระหว่างนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจดับเพลิง เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นจะรวบรวมค่าใช้จ่ายของภาครัฐ รวมถึงค่าเสียโอกาสของประชาชนและสิ่งแวดล้อม โดยผู้ก่อเหตุให้เกิดผลกระทบต้องรับผิดชอบ



สาเหตุเพลิงไหม้ยังถูกตั้งข้อสังเกตุหลายประเด็น เพราะโกดังโรงงานไม่ได้เดินระบบไฟฟ้าแล้ว หลังจากที่ศาลสั่งระงับการประกอบกิจการชั่วคราวตั้งแต่ปี 2561 และไม่มีเครื่องจักร หรือคนงานในโกดัง ทำให้ข้อสันนิษฐานว่าไฟฟ้ารัดวงจร แทบจะตกไป เช่นเดียวกับอุบัติเหตุที่เกิดจากการทำงานก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีการทำงานใดๆในโรงงานแล้วตามคำสั่งศาล ตอนนี้การตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวน จึงสำคัญต่อการชี้ประเด็นสาเหตุเพลิงไหม้ โดยโรงงานไม่มีประกันภัยใดๆแล้ว แต่มีหน้าที่สำคัญนับจากนี้คือการเคลื่อนย้ายกากขยะสารเคมีเหล่านี้ออกไปกำจัดข้างนอกให้หมด และโรงงานต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองเช่นกัน



ข้อมูลจากรองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ยืนยันว่ากรมฯลงนามเห็นชอบเมื่อเดือนมกราคม ให้โรงงานย้ายกากขยะนี้ออกไป โดยแผนการขนย้ายต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการระดับจังหวัดฯด้วย



ขณะที่อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี ระบุว่าโรงงานนี้ได้เสนอแผนต่อคณะกรรมการจังหวัดเมื่อ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพื่อขนย้ายกากขยะ และจะต้องรายงานความคืบหน้าในเดือนกรกฎาคม แต่ก็เกิดเพลิงไหม้ก่อน



ที่จริงแล้วโรงงานนี้ เคยมีใบอนุญาต ประเภท 105 และ 106 รวม 9 ใบ ถูกกรมเพิกถอน 1 ใบ ไม่ต่ออายุ 2 ใบ จึงเหลือ 6 ใบ ต่อมาถูกชาวบ้านฟ้องเรื่องผลกระทบจากสารเคมีลงแหล่งน้ำ ศาลสั่งห้ามประกอบกิจการชั่วคราว ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา แต่กากขยะสารเคมีดังกล่าว ก็ยังเก็บไว้ในโกดังของโรงงาน ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตุอีกว่า หลายโกดังแทบไม่เหลือสภาพความเป็นโรงงานเพราะไม่มีเครื่องจักร แต่มีเพียงโกดังไว้เก็บกากสารเคมีจำพวกโซเว้นท์ น้ำมันเก่า และกากสีเก่าเท่านั้น



ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรมเผยแพร่ข้อมูลว่าปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งย้ายอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี ออกจากพื้นที่ก่อนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรดม สั่งตรวจสอบความผิดตามกฎหมายกรมโรงงานอย่างเข้มงวด พร้อมกำกับให้โรงงาน ย้ายกากขยะสารเคมีทั้งหมดทั้งที่เหลือจากเพลิงไหม้และในโกดังอื่นๆ ออกไปกำจัดภายใน 15 วัน นับจากนี้



ถังกากขยะสารเคมี ขนาด 200 ลิตร ตามที่รายงานไว้ระบุว่ามีมากกว่า 3 หมื่นถัง การที่กระทรวงฯมีคำสั่งให้ย้ายไปกำจัดภายใน 15 วัน จะเกิดประโยชน์ต่อชุมชนก็จริง ก็ต้องติดตามว่าจะมีความเป็นไปได้ในแง่ปฎิบัติมากน้อยเพียงใด และต้องติดตามว่า เมื่อย้ายออกจากโรงงานแล้ว จะถูกนำไปกำจัดที่โรงงานปลายทางที่ต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการกำจัดขยะในประเทศไทยที่ผ่านมา มักประสบปัญหานี้เช่นกัน ข่าว 3 มิติ จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

คุณอาจสนใจ

Related News