บังคับใช้แล้ว! สธ.กำหนดให้ “กลิ่น-ควัน กัญชา กัญชง” เป็นเหตุรำคาญ มีโทษตามกฎหมาย

ภาควิชาการหลายส่วนยังคงแสดงความกังวลในภาวะสูญญากาศหลังกระทรวงสาธารณสุขประกาศปลดล็อคกัญชาออกจากพืชเสพติด ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของทั้งผู้บริโภคและคนรอบข้าง ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎหมายควบคุมการใช้กัญชา กัญชง เพื่อไม่ให้กลิ่นหรือควันรบกวนตามออกมา ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการและกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังการใช้กัญชาในพื้นที่สถานศึกษา โดยยืนยันการสร้างสถานศึกษาปลอดกัญชา

มหาวิทยาลัยมหิดลออกแถลงการณ์ ให้คำแนะนำและเสนอแนะเรื่องการใช้กัญชา หลังประกาศกระทรวงสาธารณสุขได้ปลดล็อคกัญชาออกจากพืชเสพติดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยทางมหาวิทยาลัยได้แสดงความห่วงใยถึงประชาชนที่จะได้รับผลกระทบนี้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ ทั้งด้านจิตประสาท การพัฒนาการของสมองในเด็กและเยาวชน รวมไปถึงสุขภาพในระยะสั้นและระยะยาว

ล่าสุด ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยเเพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือ ควันกัญชากัญชง หรือ พืชอื่นใดเป็นเหตุรำคาญ ปี 2565 ลงนามโดยนายสาธิต ปิตุเตชะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 15 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งเนื้อหาในประกาศฉบับนี้ ระบุถึงการใช้กัญชาและกัญชง ในทางไม่เหมาะสม เช่น การสันทนาการ จนสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า ควันของกัญชา กัญชง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย เช่น โรคปอด หอบหืด หลอดลมอักเสบ ดังนั้นเพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบจนเป็นเหตุให้เสื่อม หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง จึงสมควรกำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข

​โดยการนำกัญชาไปใช้ที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลกระตุ้นให้เกิดอาการป่วยทางจิตรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติซึมเศร้า หรือป่วยด้วยโรคจิตเภท อยู่เดิม , มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหืดหอบ หลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง , เช่นเดียวกับเด็กที่สัมผัสควันกัญชามือสอง อาจได้รับผลกระทบทางจิตประสาทเช่นเดียวกับผู้สูบ ซึ่งมีผลการศึกษาระบุว่า กัญชาแบบพันลำ มีอัตราการปล่อย PM 2.5 เฉลี่ยมากกว่าบุหรี่ถึง 3.5 เท่า

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้เตรียมออกคำสั่งกำกับดูแลสถานศึกษา ให้เป็นสถานที่ปลอดกัญชา เช่นเดียวกับบุหรี่และแอลกอฮอล์ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. เข้มงวดเรื่องกัญชาเสรีในสถานศึกษาอย่างใกล้ชิด และไม่อนุญาตให้มีการใช้กัญชาในสถานศึกษา แม้จะผ่านการแปรรูปมาในรุปแบบอาหารหรือเครื่องดื่มแล้วก็ตาม

เช่นเดียวกับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่ขณะนี้ กทม.ได้มีนโยบายโรงเรียนปลอดกัญชา เพื่อรอประกาศเป็นคำสั่งต่อไป โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า จะเดินหน้าประกาศให้โรงเรียนในสังกัด กทม.ทั้ง 437 แห่ง เป็นเขตปลอดกัญชา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อเด็กที่ต้องเฝ้าระวัง ไปพร้อมกับให้ความรู้แก่นักเรียนและครู รวมทั้งให้โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังและรายงานผลผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับกัญชาด้วย