สังคม
นักวิชาการตั้งคำถาม เร่งปลดล็อกกัญชาใครได้ประโยชน์ หวั่นสังคมรับผลกระทบใหญ่หลวง
โดย pattraporn_a
13 มิ.ย. 2565
68 views
นักวิชาการ ตั้งคำถาม เร่งปลดล็อกกัญชา ทั้งที่กฎหมายลูกยังไม่เสร็จ ใครได้ประโยชน์ ขณะที่สังคมอาจได้รับผลกระทบใหญ่หลวง
ท่ามกลางกระแสการปลดล็อคกัญชาออกจากสารเสพติด ภายใต้ประกาศของกฎกระทรวงจนทำให้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนเกิดข้อกังวลถึงผลกระทบที่จะตามมาหากใช้ผิดวิธี เวทีเสวนา ปลดล็อค กัญชง กัญชา ปลูกใช้อย่างไรให้ถูกต้อง ได้หารือถึงแนวทางการใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้ ขณะเดียวกันนักวิชาการได้ตั้งข้อสังเกตกันว่าเหตุใด กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องเร่งปลดล็อคกัญชาอย่างเร่งด่วนจนทำให้เกิดช่องว่างสูญญากาศในช่วงที่กฎหมายลูกยังไม่พร้อมใช้
ข้อกังวลถึงการใช้กัญชาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังปลดล็อกกัญชาเป็นพืชเสรี กลายเป็นที่ถกเถียงในวงเสวนาปลดล็อค กัญชง กัญชา ปลูก ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษากัญชาเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตั้งแต่ผลวิจัยการปลูกและศึกษาการเติบโตของพืชชนิดนี้ สู่การแปรรูปผลผลิต
ซึ่งผลผลิตที่ถูกนำมาใช้แปรรูป จะมีสารสำคัญ 2 ชนิดที่ก่อให้เกิดทั้งสรรพคุณและโทษ คือ สาร CBD ที่นำมาใช้ทางการแพทย์ และ สาร THC ที่เป็นสารเสพติด
เนื่องจากในกัญชา จะมี THC ประกอบอยู่ถึง 12% และมี CBD เพียงไม่ถึง 0.30% เท่านั้น ดังนั้นการจะใช้ประโยชน์จากสาร CBD จำเป็นต้องอาศัยกระบวนการสกัด และ สาร THC ที่เป็นโทษจะยิ่งออกฤทธิ์เมื่อเจอกับปฏิกิริยากับความร้อน โดยเฉพาะส่วนของดอกและหางกระรอก
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จากกัญชา ถูกนำมาใช้เป็นการรักษาทางเลือกอย่างแพร่หลาย ภายใต้การรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ทุกวันนี้กัญชาสามารถปลูกได้แล้ว ผ่านการจดแจ้งผ่านแอปพลิเคชั่น ปลูกกัญ และสามารถขออนุญาตสกัด ก่อนผลิตเป็นสินค้าได้ตามกฎหมายอาหาร ยา เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สมุนไพร
นักวิชาการและแพทย์ต่างตั้งข้อสังเกตถึงการเร่งคลายล็อคกัญชาเสรี ที่มีผลเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ร่างพระราชบัญญัติกัญชากัญชง และกฎหมายควบคุมอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาบังคับใช้ ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมผลิตภัณฑ์กัญชาในขณะนี้
ล่าสุด มีผู้เข้าใช้งานระบบปลูกกัญแล้ว กว่า 36 ล้านคน มีผู้จดแจ้งกัญชา 728,244 ใบ และกัญชง 22,842 ใบ ท่ามกลางข้อกังวลถึงการเข้าถึงกัญชาได้ง่ายขึ้นของกลุ่มเยาวชน และสุขภาพของประชาชน
ซึ่ง รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระบุกับข่าว 3 มิติ ว่า ขณะนี้ทางกลุ่มโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลเอกชนได้หารือด้านการเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพของประชาชนจากการใช้กัญชา เพื่อความรอบคอบและเหมาะสม ก่อนที่พระราชบัญญัติกัญชากัญชงจะผ่านการเห็นชอบและมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้