ตร.แจงใช้ภาพอื่นแถลงคดีแตงโม เหตุใช้ภาพจริงไม่ได้ ชาวเน็ตจี้ต่อ ไม่ใช่แผลใบพัดเรือ

เเม้ตำรวจจะสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของเเตงโม นิดา ส่งให้อัยการเเล้ว เเต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังมีความเคลื่อนไหวเเละปฏิกิริยาจากฝ่ายต่าง ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นภาพบาดเเผลรูปตัว S ในต่างประเทศ ที่ตำรวจภูธรภาค 1 เอามาประกอบข้อมูลในวิดีทัศน์ เเละอ้างว่าเป็นบาดเเผล ที่เกิดจากใบพัดเรือชนิดเดียวกันกับกรณีของเเตงโม เเต่ภายหลังกลับพบว่า ภาพดังกล่าว สามารถค้นหาได้ทั่วไปในกูเกิล มีต้นทางมาจากอังกฤษ เเละในข่าวก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ภาพที่ตำรวจเอามาใช้ เป็นเเผลที่เกิดจากใบพัดเรือ ล่าสุด ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ออกมาเเถลงขอโทษ ยืนยันไม่มีเจตนาบิดเบือนข้อมูล เเละเชือว่าจะไม่กระทบต่อสาระสำคัญของคดี



พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมคณะทำงานชุดคลี่คลายคดี ร่วมกันชี้เเจง กรณีภาพที่นำเสนอในวีดิทัศน์ในวันแถลงสรุปสำนวน 26 เมษายน ซึ่งถูกสังคมทักท้วงว่า อาจจะเข้าข่ายบิดเบือน เเละไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง



พ.ต.อ.วรชาติ เเสนคำ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานะหัวหน้าชุดรวบรวมหลักฐาน ชี้เเจงว่า ภาพที่เกิดปัญหานั้น เป็นการอธิบายลักษณะของบาดแผลที่มีลักษณะโค้งเว้า โดยในวีดิทัศน์ที่แถลงข่าวใช้คำว่า "บาดแผลที่มีการโค้งเว้าเป็นรูปตัว S ลักษณะเช่นเดียวกัน" จึงนำภาพดังกล่าวที่คล้ายกันมาให้ดูเป็นตัวอย่าง



พ.ต.อ.วรชาติ ยังระบุว่า โลกพัฒนาไปมาก ภาพบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือ สามารถค้นหาได้จากภาพข่าวทั่วไป ตำรวจไม่สามารถปิดบัง หรือบิดเบือนข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานต่างๆได้ และทราบดีว่า ปัจจุบันในโลกโซเชียล มีการตรวจสอบการทำงานของตำรวจอย่างเข้มข้น



ในวีดีทัศน์ที่มีคำบรรยายว่า "มีผู้เคราะห์ร้ายถูกใบพัดเรือ มีบาดแผลลักษณะเดียวกัน" แต่เราไม่ได้นำรูปมาขึ้นเปรียบเทียบ จึงต้องขออภัยที่ทำให้การบรรยายภาพ สื่อสารให้ผู้รับชมเกิดความกำกวม ซึ่งเจตนาการนำภาพมาเปรียบเทียบ เพื่อต้องการนำเสนอลักษณะบาดแผล ที่เป็นลักษณะโค้งเว้าคล้ายตัว S



ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพนี้เป็นข้อมูลจากต่างประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวกับใบพัดเรือ กังวลใจหรือไม่ว่าจะถูกดำเนินคดี ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ



พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนภูธรภาค 1 ไม่ได้ตอบประเด็นนี้ เพียงเเต่บอกสั้น ๆ ว่า "ขออภัยในความผิดพลาด จุดประสงค์หลักก็เพื่อสื่อให้เห็นลักษณะของบาดเเผล ไม่มีเจตนาอื่น เพราะไม่สามารถนำภาพศพจริงมานำเสนอได้ ขออภัยในความไม่รอบคอบ"



สื่อพยายามถามต่อว่า คณะทำงานวีดีทัศน์ประกอบสำนวน กับผู้บรรยาย เป็นทีมงานของตำรวจ หรือเป็นทีมงานจากส่วนอื่น เพราะไม่มีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ พ.ต.อ.วสันต์ ตอบว่า เป็นทีมงานของตำรวจ เเละต้องขออภัยที่ไม่สามารถนำข้อมูลที่อ้างอิงได้ มานำเสนอ



นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า บาดแผลบนศพที่เพิ่มขึ้นจาก 11 รอย เป็น 26 รอย โดยไม่มีการระบุที่มาของแผลเพิ่มเติมนั้น พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า จำนวนบาดแผลอยู่ในสำนวนการสอบสวนแล้ว ตอนนี้ตำรวจไม่มีอำนาจ เพราะสำนวนอยู่ที่อัยการแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากสาระสำคัญในคดีไม่ได้เปลี่ยนแปลง



ผู้สื่อข่าว ตั้งคำถามอีกหลายประเด็น เเต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบที่ชัดเจน ตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวขอบคุณ ลุกจากเก้าอี้ เเละเดินออกจากห้องเเถลงข่าวทันที เพื่อดูว่าความผิดพลาดนี้ เกิดขึ้นจากจุดไหน เราจะย้อนกลับไปดูคลิปจากวิดีทัศน์กันอีกครั้ง ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า "เป็นกรณีอ้างอิงจากกรณีต่างประเทศ ที่มีผู้เคราะห์ร้ายถูกใบเรือชนิดเดียวกันบาดขา"



จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เริ่มจากเพจ Drama-addict ตั้งข้อสังเกตถึงภาพที่เสำนักข่าว The Sun เคยเอาลงในเว็บไซต์ตั้งเเต่ปี 2019



ทีมข่าวช่อง 3 พยายามตรวจสอบต้นทางของภาพนี้ พบว่าต้นโพสต์มาจากอังกฤษ เอามาลงไว้ตั้งเเต่วันที่ 22 กันยายน 2562 เเต่เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 20 กันยายน ปีเดียวกัน ตอนประมาณห้าทุ่มครึ่ง ในงานเลี้ยงที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในเมือง Stafford ผู้บาดเจ็บบอกว่า ขณะยืนอยู่ในงาน ถูกวัตถุบางอย่างกรีดเป็นแผลลึก 15 เซนติเมตร ที่บริเวณขาขวา ทำให้เสียเลือดจำนวนมาก ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เเละเย็บเเผลอย่างที่เห็นในภาพ เเละจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร เเต่ที่ยืนได้ก็คือ เเผลรูปตัว S รูปนี้ ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ