สังคม

วันแรก "ความริเริ่มรอมฎอนสันติสุข" ยุติปฏิบัติการทางทหารในเดือนรอมฎอน

โดย kodchaporn_j

3 เม.ย. 2565

32 views

วันแรกของความริเริ่มรอมฎอนสันติสุข จากข้อตกลงระหว่างคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับขบวนการบีอาร์เอ็น ที่ประกาศยุติปฏิบัติการทางทหาร ไม่พบเหตุความรุนแรง และกองทัพภาคที่ 4 ได้ปลดป้ายประกาศจับผู้ต้องหาบริเวณด่านความมั่นคงด้วย


วันแรกในการเริ่มตามข้อตกลง ความริเริ่มรอมฎอนสันติสุข ที่ คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย พลเอกวัลลภ รักเสนาะ ได้บรรลุข้อตลงกับขบวนการบีอาร์เอ็น นำโดย อุซตาส อานัส อับดุลเราะห์มาน ที่จะยุติปฏิบัติการทางทหาร ในเดือนรอมฏอน ระหว่างวันที่ 3 เมษายน ถึง 14 พฤษภาคม เป็นเวลา 44 วัน ในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสี่อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยบีอาร์เอ็น ประกาศยุติการก่อเหตุ ขณะที่กองทัพภาคที่ 4 ลดปฏิบัติการเชิงรุก เช่นการปรับด่านความมั่นคง และการปลดป้ายประกาศจับผู้ต้องหา เพื่อสร้างบรรยากาศของการขอโทษและให้อภัย



จากการตรวจสอบบริเวณด่านจุดตรวจปลักปลา อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ในจำนวน 50 ด่าน ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ซึ่งแยกเป็นด่านจุดตรวจ 3 ฝ่าย 21 ด่านตรวจ ด่านจุดตรวจ 2 ฝ่าย 16 ด่านตรวจ และด่านจุดตรวจฝ่ายเดียว 16 ด่านตรวจ



โดยในวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฏอน พบว่า เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจปลักปลา ซึ่งเป็นด่านตรวจ 3 ฝ่าย ได้ทำการปลดป้ายไวนิล ที่มีรูปภาพพร้อมรายชื่อของผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ที่มีหมายจับก่อคดีต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งไว้บริเวณด้านหน้าของอาคารน็อกดาวน์ออกแล้ว หลังจากที่ได้มีการติดไว้ที่เป็นเวลายาวนานมาหลายปี



นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ มีการปรับพฤติกรรม จากที่มีเรียกรถหรือยานพาหนะที่ผ่านไปมาบริเวณด่านตรวจ เพื่อขอตรวจค้นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ก็ได้สับเปลี่ยนมาเป็นการเรียกรถให้หยุด พร้อมกับได้มีการพูดคุยกับตัวบุคคล หากพบว่าเป็นชาวไทยมุสลิมเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ ก็จะทำการพูดคุยพร้อมกับได้ทำการสลาม ซึ่งถือว่าเป็นการทักทายแบบอิสลาม



โดยบรรยากาศที่พบเห็นไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหากผ่านพ้นข้อตกลงการยุติความรุนแรงในช่วงเดือนรอมฏอน ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ที่ 3 เมษายน 2565 ถึง วันที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่มีจำนวน 44 วันไปด้วยดี อาจจะเป็นนิมิตรหมายสำคัญนำไปสู่การยุติความรุนแรงอย่างถาวรในอนาคตได้

คุณอาจสนใจ