ผลผ่าร่าง 'แตงโม' รอบ2 พบแผล 22 จุด 'ทนายเดชา' ปรึกษาแพทย์ เล็งเพิ่มข้อหา

กระทรวงยุติธรรม แถลงผลชันสูตรร่างของ เเตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ รอบ 2 พร้อมตอบ 11 ข้อเรียกร้อง ที่เเม่ของเเตงโม สงสัย โดยมี 4-5 ประเด็นที่ต่างจากครั้งแรก โดยเฉพาะกรณีพบบาดแผลจำนวน 22 จุด ส่วนทนายเดชา จะศึกษาข้อมูลและปรึกษาว่าข้อสังเกตที่พบ โดยเฉพาะร่องรอยบาดแผล จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาจากประมาท เป็นเจตนาได้หรือไม่



ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้นำเเถลงในวันนี้ โดยบอกว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง 11 ข้อ ที่คุณแม่ของแตงโม สงสัย ซึ่งมีบางประเด็นเกี่ยวกับการผ่าพิสูจน์ครั้งที่ 2 ไม่สามารถตอบคำถามได้ เพราะอาจจะกระทบต่อรูปคดีครั้งนี้ มีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งสภาพศพที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ



ผล คือ ศีรษะ ไม่พบบาดแผลใดๆ สภาพใบหน้า มีภาพการตรวจศพของเเตงโมครั้งเเรกเปรียบเทียบ ได้ส่งให้ตำรวจไปเเล้ว โดยญาติสามารถทำเรื่องขอนำไปเปรียบเทียบได้ ซึ่งจะสามารถตอบคำถามสภาพการเปลี่ยนแปลงของศพหลังการตาย ที่อาจเกิดจากอากาศ หรือความดัน



ลำคอ ไม่พบว่ามีการรัดคอ บริเวณอกใต้ลำคอ ตรวจรอยไหม้ที่มีการตั้งข้อสังเกตเเล้ว บาดแผลที่ขา จำนวน 22 จุด มีผลรายงานเเล้ว บาดเเผลบริเวณน่องเเละข้อพับทั้งสองข้าง มีผลรายงานเเล้ว บริเวณเล็บมือทั้งสองข้าง ได้ตรวจซ้ำอีกครั้งว่ามีการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายหรือไม่ สวนแผ่นหลัง ไม่พบบาดแผล หลอดลม มีผลรายงานเเล้ว บริเวณอวัยวะเพศ นำสารคัดหลั่งไปตรวจ มีผลรายงานแล้ว เเละ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในการชันสูตรครั้งที่สองไม่ใช่ชุดที่ใส่ในวันเกิดเหตุ เนื่องจากมีการชันสูตรไปครั้งหนึ่งเเล้ว



โดยสรุปผลตรวจสอบครั้งที่ 2 มีจุดที่แตกต่างจากครั้งแรก 4-5 ประเด็น สภาพศพรอบแรก ยังไม่มีการฉีดฟอร์มาลีน ส่วนรอบสองฉีดแล้ว ทำให้บางอย่างตรวจได้ และเสื้อผ้าที่ถูกเปลี่ยนไป



พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่าการผ่าพิสูจน์รอบ 2 ถือเป็นประโยชน์ แต่มีข้อจำกัดเรื่องสภาพศพที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งข้อมูลจะถือเป็นความลับ โดยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายความ ได้รับมอบไปแล้ว ดังนั้น การจะเปิดเผยข้อมูลนั้นอาจไม่ได้ทั้งหมด การดำเนินการวันนี้เป็นการร้องขอของญาติ ไม่ใช่พนักงานสอบสวน



ผศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ บอกว่า การตรวจสอบครั้งแรก มีมาตรฐานที่ถือว่าทำให้ตอบคำถามได้เกือบทั้งหมด ส่วนการผ่าในรอบสอง เป็นการย้ำว่าข้อสงสัยในข้อแรกนั้นใช่หรือไม่ใช่



สำหรับบาดแผลที่ขา ยังตอบไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร โดยตำรวจจะไปจำลองการเกิดบาดแผลกับวัตถุต่างๆ อาจจะเป็นใบพัดเรือ เพื่อเปรียบเทียบกับบาดแผล ส่วนการตรวจสอบเรื่องแอลกอฮอล์นั้น ปกติแล้วหากเสียชีวิต ร่างกายจะไม่สามารถขับออกทางลมหายใจได้ ทำให้การตรวจรอบสอง จึงพบปริมาณแอลกอฮอล์ สำหรับยูเรียถือเป็นองค์ประกอบในปัสสาวะ หากมีน้ำปัสสาวะในแผ่นอนามัยก็จะตรวจเจอ แต่ตรวจไม่พบ และแผ่นดังกล่าวแช่น้ำ ยูเรียจึงอาจจะถูกชะล้างไป



ขณะที่นายเดชา บอกว่า ต้องนำเอกสารฉบับนี้ ไปปรึกษากับตำรวจ เพื่อดูว่าจะเป็นประโยชน์กับการแจ้งข้อกล่าวหากับใครเพิ่มได้หรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นบาดแผล 22 จุด ซึ่งจะต้องปรึกษากับแพทย์ สามารถเปลี่ยนแปลงนำไปสู่การแจ้งข้อหาจากประมาท เป็นเจตนาได้หรือไม่