จับเครือข่ายขนไม้ประดู่-ชิงชัน ลอบตัดจากป่าอนุรักษ์ อำพรางด้วย "ฝักข้าวโพด" ส่งข้ามไปลาว

ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานฯ ขยายผลจับเครือข่ายขนไม้ประดู่ และชิงชัน ลักลอบตัดจากป่าอนุรักษ์ เพื่อส่งข้ามไปลาว พบไม้ของกลางซุกซ่อนในโกดังและลำเลียงในรถยนต์ อำพรางด้วยฝักข้าวโพด รวมกว่า 200 ท่อน พร้อมผู้ต้องหา 6 ชุด

กรณีเมื่อ 3วันก่อน ข่าว 3 มิตินำเสนอการแกะรอยขบวนการตัดไม้จากป่าอนุรักษ์ที่จังหวัดแพร่ และลำเลียงมาที่หนองคาย เพื่อจะข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยยึดรถยนต์ พร้อมไม้ของกลางไว้ได้ ล่าสุดวันนี้ขยายผลเข้าค้นโกดังแห่งหนึ่งในจังหวัดน่าน จดทะเบียนการค้าเป็นกิจการขนส่งพืชผลการเกษตรไปประเทศลาว แต่ในรถยนต์ที่มีฝักข้าวโพดปิดท้ายกระบะ และผ้าใบที่คลุมอยู่ กับเต็มไปด้วยไม้หลายชนิดที่เตรียมส่งออก

โดยหมายค้นของศาลจังหวัดน่าน ที่ชุดเฉพาะกิจพญาเสือได้มาจากการนำหลักฐานไปขอศาล ถูกแสดงต่อเจ้าของโกดังหลังหนึ่ง ที่บ้านแดนพนา ต.ไชยวัฒนา อ.ปัว จ.น่าน เมื่อสายวันนี้ หลังมีเบาะแสว่ามีการซุกซ่อนไม้แปรรูปแบบแผ่น ที่ตัดออกจากป่าอนุรักษ์ มาซุกซ่อนที่นี่

โกดังนี้จดทะเบียนพาณิชย์ เป็นกิจการขนส่งพืชผลการเกษตรจากประเทศไทย ไปประเทศลาว แต่ขณะเข้าค้นมีรถยนต์อยู่ไม่กี่คัน หนึ่งในนั้นคือรถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่ให้ชายที่อ้างว่าเป็นคนขับรถมาแสดงตัว และเปิดผ้าใบออกพร้อมกัน พบว่าเป็นไม้แปรรูปแผ่นใหญ่ อยู่เต็มคันรถ

เมื่อเขาไปในโกดัง ก็พบรถกระบะอีกคันจอดอยู่ด้านใน และเมื่อเปิดผ้าใบคลุมรถออก ก็พบฝักข้าวโพดหล่นลงพื้น และมีไม้แปรรูปบรรทุกไว้เต็มคันรถเช่นกัน ทั้งนี้ ไม่เพียงเฉพาะในโกดัง เมื่อเจาหนาที่ค้นรอบๆ ตามจุดที่ต้องสงสัยว่าอาจมีไม้ซุกซ่อนอยู่อีก ก็พบกองฟางอยู่ใกล้ๆกัน และก็พบว่ามีไม้แปรรูปอีกจำนวนมากซุกซ่อนอยู่

ไม้เหล่านี้ส่วนหนึ่งถูกแกะรอยมาจากการลักลอบตัดไม้ชิงชัน จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าขุนน้ำยม อ.ปง จ.พะเยา และบางส่วนตัดจากป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยม กระทั่งมาถึงที่โกดังจึงพบไมประดู่อีกจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าตัดมาจากพืนที่เชียงใหม่ แล้วลำเลียงมาที่นี่ เพื่อส่งออกผ่านแดนที่ด่านห้วยโกร๋น จ.น่าน

หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ระบุว่า นี่เปนการขยายผลจากเครือข่ายเดียวกันที่จับได้ที่จ.หนองคาย เพื่อเตรียมส่งขามไปประเทศลาว

ผู้ต้องหาที่แจ้งข้อหาดำเนินคดี เป็นชาวไทย 6 คน ที่เชื่อมโยงทังการติดต่อสื่อสาร และการโอนเงินถึงกัน รวมถึงนายทุนที่ประเทศลาว 1 คน ขณะที่การค้นหลักฐานยังพบบัญชีรายจ่าย ที่มีเจ้าหน้าที่บางหน่วยเกี่ยวข้อง

ส่วนไม้ที่ยึดได้วันนี เปนไมประดู่ 107 แผ่น ไม้ชิงชัน 124 แผ่น รวมไม้ 231 แผ่น คิดเป็นความเสียหายต่อรัฐราว 2.1 ล้านบาท ขณะที่ราคาเมื่อส่งไปนอกประเทศ จะมีราคากว่า 5 ล้านบาท