เจรจา 21 ชม. ไร้ผล จนท.วิสามัญ “โจรใต้” 2 ศพ คาบ้านเช่าที่บาโงระนะ

ราวเที่ยงวันของเมื่อวานต่อเนื่องมาถึงวันนี้ ที่นราธิวาสได้ เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นใจ ตำรวจและทหาร สนธิกำลังเข้าปิดล้อมบ้านเช่า ในอ.ระแงะ หลังพบว่า มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่มีหมายจับคดีลอบวางเบิด หลายคดี ไปกบดานอยู่อย่างน้อย 2 คน

แต่เจ้าหน้าที่พยายาม ใช้ปฎิบัติการจากเบาไปหนักด้วยการ เปิดการเจรจาให้ยอมมอบตัว ทั้งเชิญผู้นำศาสนาจนถึงพ่อและแม่ของผู้ต้องหามาช่วยเกลี่ยกล่อม แต่ก็ไร้ผล กลับมีการยิงสวนออกมาเป็นระยะ ที่สุดจึงเปิดปฎิบัติการปิดล้อมเพื่อจับตาย


ขณะเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีคนร้าย 2-3 คน หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเช่า ที่บ้านบาโงระนะ ม.5 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แต่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่เป็นระยะ ทหารพรานถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ จนฝ่ายคนร้ายเสียชีวิตก่อน 1 คน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปได้

ต่อมาจึงไปขอให้พ่อแม่ของคนร้ายอีกคน มาช่วยหว่านล้อมให้ยอมมอบตัว แต่นอกจากไม่ได้ผลแล้ว คนร้ายยังคงใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ จนต้องรีบให้พ่อและแม่ของผู้ต้องหาหลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย


หลังการปิดล้อมดังกล่าว ผ่านไปมาประมาณ 21 ชั่วโมง ที่สุดทางกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนใต้ ตำรวจ และทหารบุกจู่โจม โดยที่คนร้ายยังยิงตอบโต้ ต่อมาฝ่ายผู้ต้องหาเสียชีวิตอีก 1 คน คือ นายอับดุลฮากัม อาแว อายุ 26 ปี ซึ่งมีประวัติเคยก่อเหตุลอบวางระเบิด 2 เหตุการณ์ใน จ.นราธิวาส


เมื่อตรวจสอบพบที่บ้านเช่าห้องที่ 2 จึงพบศพคนร้ายคนแรก นอนเสียชีวิตอยู่ คือ นายมะตอฮา ยูนุ อายุ 25 ปี ใกล้ศพพบอาวุธปืน 2 กระบอก จากนั้นจึงเข้าเคลียร์พื้นที่เก็บพยานหลักฐาน เพื่อประกอบคดี ส่วนศพผู้ต้องหาทั้ง 2 ถูกส่งไปให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดก่อนจะมอบให้ญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนา


ซึ่งผลการตรวจอาวุธที่คนร้ายใช้ ปรากฎว่า เป็นอาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอกที่ถูกปล้นมาจากคลังของกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ที่ผ่านมา


ขณะเดียวกันกับเหตุการณ์ที่นราธิวาส คืนเดียวกัน ก็เกิดเหตุมีผู้ก่อความไม่สงบ ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องกว่า 10 จุด ในตัวเมืองยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าเก็บกู้ได้บางส่วน มีประชาชนถูกลูกหลงจากแรงระเบิดได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งเตือนไปยังทุกอำเภอ และหน่วยกำลังในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ เพิ่มความระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ ให้เฝ้าระวังป้องกันการตอบโต้ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งจุดตรวจ และจุดสกัดจัดเวรยามปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง


และวันนี้มีการเปิดใช้ท่าอากาศยานเบตง โดยมีอดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมคณะผู้โดยสารจำนวน 76 คน ที่เดินทางมากับเครื่องบิน ของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD 6260 ไป-กลับ โดยนำชาวเบตง นักธุรกิจ ที่อยู่ กรุงเทพฯไปกับเที่ยวบินนี้ ซึ่งถือเป็นเที่ยวบินพาณิชย์เหมาลำ เที่ยวแรก ของท่าอากาศยานแห่งใหม่ล่าสุด ลำดับที่ 29 ของกรมท่าอากาศยาน

และยังถือได้ว่าเป็นการแสดงให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นว่า ท่าอากาศยานเบตง มีความพร้อมทุกอย่างทุกด้าน ในการเปิดให้บริการ การบินของเที่ยวบินพาณิชย์แล้ว สนามบินเบตงก็เกิดจากความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาและผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่ภายใต้โครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คาดว่าเดือนกุมภาพันธ์จะสามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้


สำหรับท่าอากาศยานเบตงมีพื้นที่ 920 ไร่ ก่อสร้างเมื่อปี 2559 แล้วเสร็จในปี 2562 วงเงินก่อสร้างกว่า 1,900 ล้านบาท อาคารประกอบพื้นที่รวม 7,000 ตารางเมตร รองรับผู้โดยสารได้ 300 คนต่อชั่วโมง