คณาจารย์ ม.ราชภัฎ มหาสารคาม ขอความเป็นธรรม ถูกถอน 'ตำแหน่งวิชาการ' แบบไม่โปร่งใส

คณาจารย์ส่วนหนึ่ง จากทั้งหมด 44 คน จากมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ออกมาเปิดใจ หลังสภามหาวิทยาลัยมีมติถอดถอนตำแหน่งทางวิชาการ ทั้งระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์และรองศาสตราจารย์ ด้วยเหตุผลที่กระบวนการดำเนินการ ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข โดยยังสามารถยื่นอุทธณ์คำสั่งภายใน 30 วัน

สภามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม มีมติเพิกถอนตำแหน่งทางวิชาการ อาจารย์ 44 คน พร้อมเรียกคืนเงินตอบแทนตำแหน่งย้อนหลังทั้งหมด โดยมีอาจารย๋บางคนที่เกษียณไปแล้วถูกถอดตำแหน่งด้วย โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลเมื่อ 5 ธค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม คณาจารย์ส่วนหนึ่งเปิดใจกับข่าว 3 มิติว่า ผู้ถูกถอดถอนตำแหน่งได้รับผลกระทบโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการ และโดยหลักการแล้วคณาจารย์ มีหน้าที่เพียงยื่นผลงานให้มหาวิทยาลัยนำเข้าสู่การพิจารณาเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์รู้ขั้นตอนอื่นหลังจากนี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้เห็นขันหรือกระบวนการที่ผิดปกติ



ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม มีคำสั่งปลดรองอธิบการบดี 1 คน และไล่ออกพนักงาน 1 คน ฐานผิดวินัยร้ายแรงและทุจริตต่อหน้าที่ราชการ กรณีปลอมลายเซ็นผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเบิกค่าอ่านงาน และค่าเดินทาง ของคณะกรรมการที่ประเมินผลงานวิชาการให้ คณาจารย์ผู้ขอตำแหน่ง โดยเฉพาะช่วงระหว่างปี 2554 ถึง 2558 ที่คณะกรรมการตรวจสอบฯ รายงานต่อสภามหาวิทยาลัยว่า

พบการปลอมลายเซ็นเบิกจ่ายค่าเดินทาง ค่าจัดประชุม ค่าประเมินผลงานวิชาการเป็นต้น เป็นเงินกว่า 11 ล้านบาท นำมาสู่การตรวจสอบเพิ่มเติมไปถึงขั้นตอนการพิจารณาตำแหน่งวิชาการ ของคณาจารย์เพิ่มเติม จนกระทั่งได้ผลตรวจสอบ และสภามหาวิทยาลัยฯ มีมติถอดถอนตำแหน่งวิชาการของอาจารยน์อีก 44 คน โดยมีรายงานว่ามีรายชื่อผู้ถูกตรวจสอบอีกจำนวนหนึ่ง

คณาจารย์หลายคนยอมรับว่า ตกใจและแปลกใจ ที่สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดตำแหน่ง ด้วยเหตุผลว่ากระบวนการพิจารณามีปัญหาไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ซึ่งเป็นขึ้นตอนทางธุรการที่ไม่เกี่ยวกับอาจารย์ผู้ขอ และอาจารย์เหล่านี้ก็ไม่เคยถูกเรียกให้ชี้แจงข้อสงสัยใดมาก่อน

จากคำสั่งถอดถอนตำแหน่งวิชาการของอาจารย์ทั้ง 44 คน ดังกล่าว ซึ่งมีทังตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ ซึ่งจะถูกเรียกคืนเงินประจำตำแหน่งย้อนหลังจากที่ได้รับตำแหน่งด้วย แต่คณาจารย์ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธณ์คำสั่งภายใน 30 วัน และหรือใช้กระบวนการทางศาลปกครองได้