จนท. สนธิกำลังคุมเข้มเเรงงานกัมพูชา เลี่ยงด่านผ่านช่องทางธรรมชาติเข้าไทย

จากปัญหาขาดแคลนแรงงานในประเทศ ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนตะวันออก โดยเฉพาะที่สระแก้ว มีแรงงานชาวกัมพูชา พยายามลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ ทะลักเข้ามาในฝั่งไทยต่อเนื่อง

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามปัญหานี้ พบขบวนการนายหน้า ดัดแปลงรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ทำเป็นรถขนแรงงานเข้าสู่ตัวเมืองชั้นใน เจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังคุมเข้มตลอดแนวชายแดน 

กองกำลังบูรพา สนธิกำลังร่วมกับ กองกำกับการตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสระแก้ว ใช้อากาศไร้คนขับ หรือโดรน บินสำรวจพื้นที่ใกล้ชายแดน ในต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ หลังการข่าวแจ้งพบความเคลื่อนไหวในไร่อ้อยและป่าข้าวโพด

พบแรงงานชาวกัมพูชา ทั้งชาย-หญิง จำนวน 22 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 1 คน แรงงานกลุ่มนี้ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากนายหน้า ให้หาคนข้ามมาทำงานในฝั่งไทย ส่วนใหญ่มาจากพระตะบอง เสียมเรียบ และบันเตียเมียนเจย ลักลอบข้ามแดนผ่านคลองน้ำใสในช่วงกลางดึก และให้ค่อย ๆ เดินเท้าไปนั่งซุ่มในป่า รอเงียบ ๆ จนกว่ารถมารับ ถ้าผ่านได้ แรงงานทุกคนจะต้องจ่ายค่านายหน้าเพิ่มอีกคนละ 5 พันบาท ปลายทางมีทั้งสระแก้ว ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ที่จับได้จะถูกส่งไปดำเนินคดี เข้าสู่กระบวนการกักกันโรค เตรียมผลักดันกลับประเทศ

แต่ก็มีบางกลุ่ม หลุดลอดผ่านเข้ามาได้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้สกัดจับแก๊งลักลอบขนแรงงาน และพบว่ารถตู้ ซึ่งด้านหน้าติดป้ายรับ-ส่งนักเรียน ดัดแปลงซุกซ่อนแรงงานเถื่อนมาเต็มคันรถ มีคนไทยชาย-หญิง เป็นผู้นำพา ทราบชื่อคือนายสัมฤทธิ์ บัวผัน กับนางสาวรัศมี คำสิงห์ ทั้งคู่เป็นคนสระแก้ว ถูกจับได้ที่ถนนธนะวิถี ช่วงโคกสูง-อรัญประเทศ

ขณะเตรียมขนแรงงานเข้าพื้นที่ชั้นใน ผู้นำพาคือ นายวีระ ดวงพร ชาวสุรินทร์ แรงงานบางส่วนยอมรับว่า เดินเท้าจากฝั่งกัมพูชา จ่ายค่านายหน้าคนละ 3,500 บาท ปลายทางคือกรุงเทพฯ

แหล่งข่าวในพื้นที่ แจ้งข้อมูลกับข่าว 3 มิติ พบว่า หลังจากรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ มีแรงงานกัมพูชาทะลักเข้ามาต่อเนื่อง เช่นเดียวกับขบวนการนายหน้า กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุสลดขึ้น เมื่อรถลักลอบขนแรงงาน พยายามใช้ความเร็วเพื่อหลบเลี่ยงวงจรปิด แต่ระหว่างนั้นเกิดเสียหลักพุ่งชนวงเวียนแล้วพลิกคว่ำในพื้นที่ อ.วังสมบูรณ์ เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ฝ่ายความมั่นคง ต้องจัดกำลังคุมเข้ม สกัดกั้นทุกช่องทาง เตือนกลุ่มนายหน้า จะโดนโทษหนัก นอกจากความผิดจากการนำพาแรงงานเข้าเมืองผิดกฏหมาย จะถูกดำเนินคดีฐานมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะที่ภาคประชาชน อยากให้จับและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีส่วนรับผลประโยชน์เปิดทางให้ขบวนการ ให้เป็นกรณีตัวอย่าง สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน