สังคม

ตร.คาด "เสี่ยโจ้" หนีออกนอกประเทศแล้ว หลังหมายจับสับสนจนอัยการปล่อยตัว

โดย pattraporn_a

15 พ.ย. 2564

5.6K views

"เสี่ยโจ้ น้ำมันเถื่อน" หนีออกนอกประเทศแล้ว หลังข้อมูลหมายจับสับสนจนอัยการต้องปล่อยตัว




ความอลเวงของคดีที่ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ปัตตานี ถูกตำรวจกองปราบปราม จับตามหมายจับศาลสงขลา แต่พนักงานอัยการสงขลาให้ประกันตัวไป เพราะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องและขณะนั้นตำรวจกองปราบ ทราบว่าเสี่ยโจ้ หนีหมายจับศาลจังหวัดปัตตานีด้วย จึงตั้งใจจะนำส่งศาลปัตตานีต่อ แต่เจ้าหน้าที่ค้นไม่พบหมายจับ ทำให้ต้องปล่อยเสี่ยโจ้ไป กระทั่งค้นพบหมายจับค้างเก่าแล้วเมื่อวันเสาร์ และขอหมายค้นที่บ้านอีกครั้งเมื่อวาน ก็ไม่พบผู้ตองหาแล้ว




วันนี้ (15 พ.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแถลงว่า มีความเป็นไปได้ที่นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลสงขลา และศาลปัตตานี จะหลบหนีไปแล้ว เพราะการขอหมายค้น เพื่อเข้าตรวจค้นที่บ้านเมื่อเช้าวานนี้ ไม่พบนายสหชัย แต่ยืนยันว่าตำรวจจะทำทุกวิถีทางเพื่อติดตามตัวเสี่ยโจ้ มาดำเนินคดีหมายจับที่ค้างเก่าให้ได้


จากเดิมนั้น นายสหชัย ถูกตำรวจกองปราบปรามจับได้แล้วเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะออกมาทานอาหารย่านห้วยขวาง ซึ่งที่มาของความผิดมาจากเมื่อปี 2555 ถูกจับพร้อมเงินสด 46 ล้านบาท , น้ำมัน 2 พันลิตร และหลักฐานซื้อขายน้ำมันเถื่อน 500 ล้านลิตร ตำรวจรวบรวมหลักฐานเสนอศาลจนสงขลา จนถูกออกหมายจับข้อหาฟอกเงินและค้าน้ำมันเถื่อน ตามหมายศาลจังหวัดสงขลา ที่60/2564 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564



ขณะเดียวกัน ตำรวจมีข้อมูลว่า นายสหชัย มีหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ฐานหลบหนีการรับโทษตามคำพิพากษาศาลปัตตานี ในคดีเกี่ยวกับเอกสาร และดวงตราประทับปลอม จึงนำนายสหชัย ส่งพนักงานอัยการจังหวัดสงขลา


กระทั่งเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายสหชัย ได้รับการประกันตัวในชั้นอัยการ เพราะพนักงานอัยการสงขลา มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในความผิดดังกล่าว แต่ก็ยังเหลือขั้นตอนว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีความเห็นแย้งกับอัยการที่สั่งไม่ฟ้องหรือไม่


ขณะเดียวกัน หลังพนักงานอัยการสงขลาให้ประกันตำรวจ ตำรวจระบุว่าได้ตรวจสอบหมายจับค้างเก่าในความผิดอื่นของนายสหชัย โดยตำรวจระบุว่า สืบทราบว่านายสหชัย มีหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี้ด้วย แต่เมื่อตรวจสอบในระบบหมายจับ กลับไม่พบว่ามีหมายจับนายสหชัยอีก จึงต้องปล่อยตัวไป


และเมื่อวันที่ 10 พ.ย. สำนักงานศาลยุติธรรม ออกเอกสารชี้แจงเพื่อยืนยันว่า ศาลปัตตานี มีคำพิพากษาตั้งแต่ปี 2557 จำคุกนายสหชัย 1 ปี 9 เดือน ในความผิดเกี่ยวกับเอกสาร และปลอมแปลงรอยดวงตราประทับ ที่ใช้ตรวจการเข้าเมือง แต่นายสหชัยหลบหนี


ศาลจังหวัดปัตตานี จึงออกหมายจับ ตั้งแต่ปี 2557 และส่งหมายจับนั่นแก่ผู้บังคับการตำรวจภูธรปัตตานี ตั้งแต่ ปี 2557 นั้นแล้ว และเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลปัตตานีจึงออกหมายจับ นายสหชัยอีกครั้ง เมื่อปี 2558 และส่งให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรปัตตานีแล้วในปี 2558 เช่นกัน เพื่อให้ตำรวจจับนายสหชัยมาลงโทษ


อย่างไรก็ตาม การที่ตำรวจค้นไม่พบหมายจับนายสหชัย ของศาลจังหวัดปัตตานี เมื่อ 4 วันก่อน จนต้องปล่อยตัวไป กระทั่งค้นพบหมายจับอีกรอบ แต่นายสหชัย ก็หลบหนีไปแล้ว ทำใผ้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุใด หมายจับจึงไม่ถูกลงในระบบตั้งแต่แรก


สำหรับระบบที่ใช้บันทึกหมายจับดังกล่าว ทำขึ้นระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานศาลยุติธรรม ตั้งแต่กันยายน 2562 เพื่อใช้เชื่อมโยงคดีร่วมกันของสามหน่วยงาน โดยคดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ต้องถูกนำข้อมูลเข้าบันทึกในระบบดังกล่าวด้วย ซึ่งการที่ในระบบดังกล่าวไม่ปรากฎคดีของนายสหชัย จึงถูกตั้งคำถาม โดยเฉพาะกรณีการจับนายสหชัย ที่โรงเรื่อยในจังหวัดปัตตานี เมื่อปี 2557 นั้น พบบัญชีรายชื่อข้าราชการหลายหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องรับผลประโยชน์จากธุรกิจของนายสหชัยดว้ย




คุณอาจสนใจ

Related News