"ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" ไม่ช่วย ผู้ค้าหาดป่าตอง หวัง "ไฮซีซั่น" ต่อลมหายใจ

ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ย่านหาดป่าตอง ยังไม่ฟื้น แม้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะเปิดรับนักท่องเที่ยว มาเกือบ 100 วันแล้ว ยังหวังไฮซีซั่นเดือนหน้า ต่อลมหายใจ

สภาพหาดป่าตองในวันที่ทีมข่าวไปถึง แม้จะล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเวลาเย็น ที่ปกติมักเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่มาวันนี้ชายหาดที่เต็มไปด้วยรอยเท้ากลับ เหลือนักท่องเที่ยวในจำนวนที่นับเป็นรายหัวได้

บางลา วอร์คกิ้งสตรีท ถนนคนเดินที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งกลางวันและกลางคืนของภูเก็ต แทบกลายสภาพเป็นป่าช้า ร้านค้าปิดเงียบสนิท แม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อที่เคยเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ก็ต้องปิดตัวลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากไร้เงาของนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว

ที่ยังพอเห็นก็มีแค่ร้านนวดแผนไทย ที่ยังพอประคองไปได้ แต่ก็ไม่ได้ดีนัก เพราะวันนี้ทั้งวันมีลูกค้ามาใช้บริการเพียงคนเดียวเท่านั้น

เช่นเดียวกับเจ้าของกิจการเซิร์ฟ บนหาดกะตะ ก็ยอมรับว่าธุรกิจรายย่อยต่างๆ บนเกาะภูเก็ตอาจอยู่ได้อีกไม่นานนัก เช่น ตัวอย่างของเขาที่รายได้หายไปเกือบทั้งหมด จากยอดเช่ากระดานโต้คลื่นกว่าวันละ 30-40 คน เหลือวันละไม่ถึง 5 คน

สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ระบุ ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวปีละกว่า 14 ล้านคน เป็นต่างชาติราว 10 ล้านคน และอีก 4 ล้านคนเป็นคนไทย ซึ่งช่วงปี 2563 แม้ภูเก็ตจะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแม้แต่คนเดียว แต่ก็ได้นักท่องเที่ยวไทยราว 3 ล้านคน เข้ามาช่วยต่อลมหายใจของชาวภูเก็ตได้

ขณะที่ โครงการเเซนด์บ๊อกซ์ แม้จะมีคนเดินทางเข้ามาราว 300-500 คน ซึ่งคิดเป็นไม่ถึง 1% ของนักท่องเที่ยวที่เคยมี แต่ก็มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ

หอการค้าจังหวัดภูเก็ต ระบุ เฉพาะช่วงกรกฎาคม-กันยายนที่ผ่านมา ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 2,330 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมตลอดปียังไม่ถึงหลักแสนล้านเหมือนเช่นเคย โดยคาดการณ์ว่าช่วงไฮซีซั่นที่จะถึง อาจมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกราว 30% จากการปรับมาตรการแซนด์บ็อกซ์ล่าสุด

สภาวะที่เกิดขึ้นตลอดช่วง 3 เดือนแรกของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อาจเปรียบได้กับแสงสุดท้ายของวันที่แหลมพรหมเทพ ซึ่งตกลับขอบฟ้าไปแล้ว ท่ามกลางการจับจ้องของนักท่องเที่ยวทั่วโลกถึงสถานการณ์ที่เป็นไป สู่ความหวังของวันใหม่เมื่อภูเก็ตเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวไฮซีซั่นนับจากเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป