สังคม

ย้อนแผนก่อนรวบ ตร.ใส่ชุดไรเดอร์ จี้ชิงทองในห้างฯ ไม่ถึง 48 ชม.ล่าตัวสำเร็จ

โดย panwilai_c

3 ก.ย. 2564

107 views

ตำรวจใช้เวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง สามารถจับคนร้ายจี้ชิงทองในห้างฯ กลางเมืองปากช่อง นครราชสีมา ได้ ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพักปากช่อง หลังถูกจับกุมก็ให้การรับสารภาพ อ้างว่า พ่อป่วยและมีปัญหาเรื่องหนี้สิน ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ขอโทษผู้เสียหายและประชาชน ยืนยันจะไม่ปกป้องคนผิด




ขณะที่ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่ติดตามคดีนี้ ได้รับการเปิดเผยเบื้องหลังการคลี่คลายและสืบหาคนร้ายคดีนี้ ที่มีการอำพรางตัวตนด้วย อะไรคือพิรุธที่ทำให้ตำรวจชุดคลี่คลายคดี รู้ว่า คนร้ายคือใคร


การสืบสวนใช้เวลาไม่นาน ที่สุดก็มีหลักฐานและสามารถระบุตัวคนร้าย คือ สิบตำรวจโท อนุชาฯ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป้องกันปราบปราม ประจำสถานีตำรวจภูธรปากช่อง




ผู้ต้องหารับสารภาพ อ้างมีปัญหาเรื่องหนี้สินจากการไปกู้สหกรณ์ ประกอบกับผู้เป็นพ่อล้มป่วย มีอาการอัมพฤก ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบข้อมูลประวัติ สิบตำรวจโท อนุชาฯ ปัจจุบันอายุ 25 ปี ย้ายจากโรงพักแห่งหนึ่งที่บุรีรัมย์ มาปฏิบัติงานที่สภ.ปากช่อง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คำบอกเล่าจากคนใกล้ชิด ยืนยันว่าสิบตำรวจโทอนุชา เคยมีประวัติเรื่องการพนัน เงินสหกรณ์ 7 แสนบาทที่กู้มา หวังจะเอาไปจัดงานแต่ง แต่ก็ต้องเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่น ปัญหารุมเร้า ชักหน้าไม่ถึงหลัง ที่สุดจึงตัดสินใจก่อเหตุ โดยอาศัยช่วงใกล้ค่ำที่คนไม่พลุกพล่าน อำพรางตัวและใบหน้าทำทีเป็นพนักงานไรเดอร์ หิ้วกระเป๋าเดินเข้าห้างฯ




ผู้ต้องหาใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที ได้ทองรูปพรรณไป 132 เส้น น้ำหนักรวม 126 บาท หลังก่อเหตุพยายามใช้เส้นทางหลบเลี่ยงกล้องวงจรปิด กลับเข้าบ้านใน ต.ขนงพระ จากนั้นได้เอาทองยัดใส่ถุงพลาสติก ไปซ่อนในอ่างบัว มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถติดตามนำกลับมาได้ครบทุกเส้น




เสื้อผ้าชุดไรเดอร์ เผาทำลายหลักฐาน ส่วนจักรยานยนต์ นำไปลอกสติกเกอร์สีขาวออก กลายเป็นรถสีแดง ถูกยึดไว้เป็นของกลาง ร่วมกับหมวกกันน็อก อาวุธปืนขนาด 9 มม. และเสื้อเกราะกันกระสุนที่เอาสวมเพื่ออำพรางรูปร่าง


แต่นั่นกลับเป็นจุดอ่อน ที่ทำให้ชุดสืบสวนพบพิรุธ และสงสัยว่าภายใต้ชุดไรเดอร์ มีลักษณะพองคล้ายกับเสื้อเกราะที่ใช้ในงานตำรวจ ขนาดหัวกระสุน ประกอบกับ ท่าทางการเดิน และกางเกงที่สวมใส่ นักสืบจึงพุ่งเป้าไปที่บุคคลในวงราชการ ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งขณะนั้น ก็คือผบ.หมู่ ในโรงพักที่รู้หลายคนจักมักคุ้น


และเมื่อดูจากภาพเปรียบเทียบ พิจารณาจากคิ้วและแววตา ก็ยิ่งมั่นใจว่า คนร้าย คือ สิบตำรวจโท อนุชา ฯ ซึ่งขาดติดต่อจากเพื่อนร่วมงาน จึงตามไปที่บ้าน เค้นสอบ จนรับสารภาพ


สิบตำรวจโทอนุชาฯ ถูกให้ออกจากราชการทันที เบื้องต้นถูกแจ้ง 3 ข้อหา ฐานชิงทรัพย์ พยายามฆ่า และพกพา-ยิงปืนในที่สาธารณะ

คุณอาจสนใจ

Related News