กะเหรี่ยง KNU ออกแถลงการณ์ ปมกลุ่มคนส่งเสบียงหนุนกองทัพเมียนมา

พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยถึง กรณีมีรายงานข่าวพบข้าวสาร 700 กระสอบที่ริมแม่น้ำสาละวิน ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขณะเตรียมส่งให้ทหารเมียนมา ในรัฐกะเหรี่ยงฝั่งตรงข้ามไทย ว่า ไม่ใช่การส่งเสบียงให้ทหารเมียนมาอย่างที่เป็นข่าว ทหารไทย ไม่ได้สนับสนุนทหารเมียนมา อาจจะเป็นการประสานผ่านกลไก คณะกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่นTBC ที่ประสานขอซื้อของจากฝั่งไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการ ประสานงานในการซื้อของจากไทย อยู่บ่อยๆ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมือง เพราะคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นTBC ไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่เป็นการประสานงานความสัมพันธ์ทางทหาร และการร่วมดูแลชายแดนและดูแลประชาชนทั้งสองฝั่งให้สงบเรียบร้อย

ขณะที่ พลตรี อำนาจ ศรีมาก ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีทหารไทยส่งเสบียงไปให้ทหารเมียนมา และที่ผ่านมาทหารเมียนมาก็ไม่เคยมีการติดต่อประสานงานเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือร้องขออะไรจากไทย โดยมองว่า ถ้ามี ก็อาจจะเป็นเรื่องการซื้อขายทั่วไปตามจุดผ่อนปรนบางจุด และ ต้องไปดูด้วยว่าใครซื้อขายกับใคร ทางการไทยไม่ได้ปิดกั้นตรงนั้น หากการดำเนินการไม่ผิดกฎหมายและเป็นไปตามขั้นตอนของพิธีการทางศุลกากร

ทางคณะกรรมการบริหาร จังหวัดมือตรอ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ออกแถลงการณ์คัดค้าน กรณีบุคลคล หรือ กลุ่มบุคคลใด ที่จะส่งเสบียงอาหารให้กับทหารเมียนมา ในพื้นที่แนวหน้าซึ่งอยู่ในพื้นที่ควบคุมของจังหวัดมือตรอ กองพลที่ 5 สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง และอยู่ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ ของไทย ซึ่งกองพล 5 ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจของคณะรัฐประหาร และการปราบปรามประชาชน ดังนั้น การที่บุคคล หรือ กลุ่มบุคคลใดมีการดำเนินการส่งเสบียงอาหารให้กับทหารเมียนมา เท่ากับเป็นการสนับสนุนอำนาจของเผด็จการทหารเมียนมา ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับบุคคล หรือ กลุ่มบุคลที่ส่งเสบียงให้กองทัพเมียนมา กองพลที่ 5 สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น

ส่วนสถานการณ์ในเมียนมา ยังคงมีชาวเมียนมาออกชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร โดยที่เมืองมัณฑะเลย์ ผู้ชุมนุมจำนวนกว่าหนึ่งร้อยคน ที่ประกอบไปด้วยบุคลากรทางการแพทย์ พากันสวมชุดคลุมสีขาวออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารกันตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะเดียวกันที่เมืองโมนยวา (Monywa) ในเขตซะไกง์ มีรายงานผู้ชุมนุมเสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดฉากสลายการชุมนุม ส่งผลให้ขณะนี้ ยอดผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมในเมียนมาเพิ่มเป็นอย่างน้อย 248 คน จากรายงานของสมาคมให้ความช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง (AAPP)

ด้านสำนักข่าว AP รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมา ที่ไม่ต้องการปฏิบัติตามคำสั่งของกองทัพ และหลบหนีเข้าไปอาศัยอยู่ในอินเดีย เรียกร้องให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี อย่าส่งตัวพวกเขากลับประเทศ และขอให้ช่วยเหลือพวกเขาในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง โดยย้ำว่า พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากหลบหนีออกนอกประเทศ

ในส่วนของนานาชาติ ก็ยังคงออกมากดดันและประณามการใช้ความรุนแรงของกองทัพเมียนมา โดยนายแอนดรูว์ เคิร์กวูด (Andrew Kirkwood) ที่ปรึกษาด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ ในเมียนมา ได้กล่าวในที่แถลงข่าวของยูเอ็นว่า ประชาชนชาวเมียนมาจำนวนมาก คาดหวังว่าองค์การสหประชาชาติและนานาชาติ จะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับกองทัพเมียนมามากขึ้น และบางคนเรียกร้องให้ยูเอ็น ส่งเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพเข้าไปในประเทศ เพื่อยุติการสังหารผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติ