พระราชสำนัก

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ปีการศึกษา 2562-2564

โดย panwilai_c

7 ก.ค. 2565

7 views

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ ไปในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา 2562-2564



วันนี้ เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ ไปยังอาคารสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา 2562 - 2564



ซึ่งสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีมติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติคุณ ด้วยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขแก่ราษฎร โดยเฉพาะด้านการแพทย์และการสาธารณสุข อีกทั้งพระราชทานพระบรมราโชบาย และพระราชทรัพย์ในการจัดหาเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ แก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ในทุกมิติ และถวายพระเกียรติยศทางวิชาการระดับสูงสุดในตำแหน่ง ศาสตราจารย์ปรมัตถ์ แด่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อจารึกพระเกียรติคุณในฐานะที่ทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยและนักวิชาการหลากหลายแขนง มีผลงานเป็นเลิศทั้งด้านวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ ซึ่งพระกรณียกิจต่าง ๆ ล้วนเป็นคุโณปการ ประจักษ์แก่วงวิชาการ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ



โดยวันนี้ มีผู้สำเร็จการศึกษา ระดับดุษฎีบัณฑิต มหาบัณฑิต และบัณฑิต รวม 163 คน จากสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ และวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้พัฒนาการศึกษาและนวัตกรรมบริการสุขภาพสู่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล ที่นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อผลิตบัณฑิต และพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ



ในการนี้ พระราชทานพระโอวาท ความว่า " ปริญญาบัตรที่บัณฑิตได้รับนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า บัณฑิตมีความรู้ความสามารถทางวิชาการ ในสาขาที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา และมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน จนสำเร็จผลตามหลักสูตร กล่าวได้ว่า นอกจากปริญญาบัตร จะเป็นเครื่องรับรองวิทยฐานะ คือความรู้ความสามารถของแต่ละคนแล้ว ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณสมบัติ คือคุณลักษณะและคุณงามความดี ที่แต่ละคนมีอยู่ด้วย



บัณฑิตทุกคน เมื่อได้ระลึกถึงความสำคัญของ ปริญญาบัตรดังนี้แล้ว จึงควรจะได้ตระหนักว่า แต่ละคนมีเกียรติ ที่จะต้องรักษา ทั้งมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ที่จะต้องนำความรู้ความสามารถ และคุณสมบัติทั้งปวง ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และชาติบ้านเมือง หากบัณฑิตระลึกได้ และปฏิบัติได้จริง แต่ละคนก็จะมีความเจริญมั่นคงในชีวิต และเป็นผู้สามารถทำคุณประโยชน์ ให้แก่ประเทศชาติได้ สมเกียรติสมศักดิ์ศรี ของความเป็นบัณฑิตทุกประการ"